แวะอ่านตอนที่ (3) ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (3) เที่ยวโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ หอคอยซึเทนคะคุ ออนเซน ที่ Spa World
shinkansen
แผนเที่ยววันนี้เราจะไปกันที่ เกาะมิยาจิม่า ศาลเจ้าลอยน้ำ วันนี้ตื่นไว แต่งตัวเสร็จก่อนเวลานัดหมาย นั่งชิลกระดิกขารอเวลานัดหมายอยู่ที่ห้อง ถึงเวลาก็ออกมาอย่างสุขใจ เดินมาจนถึงชานชลารถไฟแล้ว เพิ่งนึกออกว่า เฮ้ย! ลืมเอากล้องมาอะ….. กล้องตัวเบ้อเร่อ ลืมหยิบมาซะได้ โชคดีที่มีคอมแพคตัวเล็ก ติดกระเป๋าไว้ วันนี้ก็ใช้เจ้าตัวเล็กนี้ถ่ายไปก่อนแล้วกัน ไม่อยากเดินกลับไปเอาแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันขึ้นชินคันเซน และวันนี้ก็เป็นรอบปฐมฤกษ์ของการใช้ JR Pass ขึ้น shinkansen ซะด้วย เดี๋ยวจะเสียฤกษ์ 555
shinkansen
เมื่อก้าวเข้ามาในขบวนของ Sakura No.541 ( นั่งจาก Shin-Osaka ไปลงที่ Hiroshima ) ภายในดูสะอาดตา ที่นั่งกว้างขวางดีมาก กว้างและสบายกว่าเครื่องบินชั้นประหยัดที่เรานั่งมาเสียอีก ในรูปนี้ที่ใต้ถาดวางของด้านหน้า จะมีแผนที่บอกสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องน้ำ โทรศัพท์ ถังขยะ ว่าอยู่ตรงส่วนไหนของขบวนบ้าง
miyajima
จาก Shin-Osaka มาถึง Hiroshima ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง และต่อ JR San-Yo Line มาลงที่ Miyajimaguchi ใช้เวลา 30 นาที พวกเรามาถึงสถานี Miyajimaguchi ในเวลา 08.35 พอดิบพอดี
miyajima
เดินออกมาตามป้าย เพื่อไปขึ้นเรือ ที่ท่าเรือเฟอรี่
miyajima boat ferry
หน้าตาของท่าเรือเฟอรี่ไปเกาะมิยาจิม่า
miyajima boat ferry
เนื่องจากท่าเรือนี้เป็นของ JR พวกเรามี JR Pass ก็ไม่ต้องเข้าไปซื้อตั๋วให้วุ่นวาย เดินมาต่อแถวขึ้นเรือที่ท่าเรือได้เลยจ้าา
miyajimaguchi
เรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที ก็ถึงท่าเรือเกาะมิยาจิม่าแล้ว โดยเรือข้ามฟากจะมีให้บริการทุกๆ 15 นาที
miyajimaguchi
ขึ้นมาบนเกาะ จะเจอกวางน้อยน่ารัก เดินเล่นไปมา
เกาะมิยาจิม่า
ลงจากเรือแล้วยังไม่ถึงศาลเจ้าลอยน้ำ ต้องเดินไปอีกประมาณ 10 นาที
เกาะมิยาจิม่า
ระหว่างทางเดิน ชมวิวทิวทัศน์และร้านค้าสองข้างทาง
เกาะมิยาจิม่า
อีกนิดนึง เห็นเจดีย์ลิบๆ แล้ว
ศาลเจ้าลอยน้ำ
ถึงทางเข้าบริเวณศาลเจ้าแล้ว เดินผ่านโทริอิใหญ่โตนี้ไป
ศาลเจ้าลอยน้ำ
แอบเห็นโทริอิกลางน้ำแล้ว ขอมุมนี้สักหน่อย
ศาลเจ้าลอยน้ำ
เสาโทริอิสีแดงส้ม ตั้งเด่นอยูกลางน้ำ แสดงถึงอาณาเขต บริเวณของศาลเจ้า
ศาลเจ้าลอยน้ำ
เป็นธรรมเนียมก่อนเข้าศาลเจ้า ต้อง (ซื้อบัตรเข้าชม) บ้วนปาก ล้างมือเสียก่อน
ศาลเจ้าลอยน้ำ
ทางเดินภายในศาลเจ้า สีสันสดใสมากๆ
ศาลเจ้าลอยน้ำ
ตอนนี้เป็นเวลาน้ำลง เลยไม่เห็นเป็นศาลเจ้าลอยน้ำ
ศาลเจ้าลอยน้ำ
หลังจากชมบนศาลเจ้าจนทั่วแล้ว เนื่องจากน้ำลง พวกเราจึงลงมาเดินเล่นบริเวณข้างล่างศาลเจ้านี้ด้วย บนเกาะมิยาจิม่า ไม่ว่าไปทางไหนก็เจอแต่น้องกวาง
ศาลเจ้าลอยน้ำ
ศาลเจ้าลอยน้ำ
มุมนิยมอีกสักภาพ
ศาลเจ้าลอยน้ำ
ศาลเจ้าลอยน้ำ
หอยนางรม เกาะมิยาจิม่า
ออกจากศาลเจ้าลอยน้ำมาแล้ว เหลืออีกหนึ่งภารกิจสำคัญ เนื่องจากเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นหลายๆ เล่มที่ได้อ่านมา บอกว่า ที่เกาะมิยาจิม่าแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่อง หอยนางรมอร่อย มาถึงแล้วต้องลองดูสักที เราก็เลือกแพคเกจใหญ่สุดเลย 3 ตัว 500 เยน
หอยนางรม เกาะมิยาจิม่า
เป็นหอยนางรมนึ่งไม่สุกมาก พออร่อย ราดด้วยซอสที่ไม่ใช่โชยุ ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่เข้มข้นน้อยกว่าหน่อย ชิมแล้วรสชาติดี อร่อยจริงๆ ด้วย เราติดใจมากไปเบิ้ลมาอีกถาด กินกะอิ่มเลยนะเนี่ย 555
เกาะมิยาจิม่า
ชิมหอยเสร็จแล้ว ก็ได้เวลากลับขึ้นฝั่ง
hiroshima street car
หลังจากลงจากเฟอรี่มาแล้ว มาต่อรถรางเพื่อเดินทางสู่ที่หมายต่อไปคือ สวนสันติภาพ ขึ้นรถรางสาย 2 ที่ Hiroden-nishi-hiroshima ไปลงที่ Genbaku Dome mae ค่าตั๋ว 270 เยน ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที
hiroshima street car
ซื้อตั๋วแล้วมาขึ้นรถรางที่จอดรอได้เลย พอดีเราได้เจอกับรถที่ภายในใหม่สุดๆ รถรางในฮิโรชิม่านั้น ถ้าซื้อตั๋วที่ตู้กด เราต้องมอบตั๋วที่ซื้อมาให้พนักงานตอนลง หรือถ้าไม่ได้ซื้อมาก่อน จ่ายเป็นเงินสดตอนลงรถก็ได้ ( รถราง Street Car ในฮิโรชิม่านี้ ไม่สามารถใช้ JR Pass ได้ )
atomic bomb dome
มาถึง Genbaku Dome mae แล้ว ลงรถเดินข้ามถนนมาจะเจอกับ ซากปรักหักพัง ที่เป็นผลมาจาก นิวเคลียร์ Little Boy ตึกนี้ได้ชื่อเรียกว่า Atomic Bomb Dome อะตอมมิค บอมบ์ โดม
Atomic Bomb Dome
Atomic Bomb Dome
แต่เดิม อะตอมมิค บอมบ์ โดม นี้ เป็นหอส่งเสริมอุตสาหกรรมในฮิโรชิม่า เป็นอาคารที่ก่อสร้างแข็งแรง และทันสมัยที่สุดในตอนนั้น จึงยังสามารถคงรูปอาคารได้ แม้ยอดโดมจะเหลือเพียงแค่โครงเหล็กเท่านั้น และองค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนอาคารนี้ไว้เป็นมรดกโลก เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนจิตใจถึงความน่ากลัวของระเบิดปรมาณู
อนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ
จากอะตอมมิค บอมบ์ โดม เดินข้ามสะพานมาหน่อยนึง เดินเข้ามาภายในสวนสันติภาพ จะพบกับอนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ เด็กหญิงที่เป็น 1 ในเหยื่อปรมาณูครั้งนั้น เธอได้รับกัมมันตภาพรังสีตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ต่อมาเธอป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว เธอมีความเชื่อว่าถ้าพับนกกระดาษได้ครบ 1,000 ตัว จะหายป่วย แม้เธอจะพยายามพับจนครบแล้วอาการป่วยก็ยังไม่หายไป เธอจึงตั้งใจพับอีกให้ถึง 2,000 ตัว แต่ไม่ทันครบ เธอก็เสียชีวิตลง สิ่งนี้ทำให้เราเห็นค่าของชีวิตมากมาย ซาดาโกะทำทุกอย่าง อะไรก็ได้ที่เธอมีความหวัง เพื่อให้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
อนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ
อนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ
นกกระดาษในตู้เหล่านี้ บรรดานักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ช่วยกันพับ เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงการจากไปของซาดาโกะ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
จากอนุสาวรีย์เด็กหญิงซาดาโกะ เดินเข้ามาบริเวณด้านในเรื่อยๆ เราจะไปเที่ยวกันต่อที่ใน พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ ซึ่งเป็นอาคารยาวๆ อยู่ตรงท้ายสุดของสวนสันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
ถึงแล้ว พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ ค่าเข้าชมถูกมากๆ 50 เยน เท่านั้นเอง
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
เวลาซื้อตั๋วเข้าชม ทางเจ้าหน้าที่จะถามเราด้วยว่ามาจากประเทศอะไร ที่นั่นเค้ามีเครื่องบรรยายตามจุดต่างๆ เป็นภาษาไทยให้ด้วยนะ สุดยอดไปเลย!!!! เราจำไม่ได้ว่าเค้าให้เช่า หรือเค้าให้ยืม แต่น่าจะเช่านะ มีวิธีใช้เป็นภาษาอังกฤษอธิบายให้เราเรียบร้อย พร้อมลุยแล้ว Let’s go
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
8.15 เวลาแห่งความสูญเสีย เป็นเวลาที่ Little Boy ถูกทิ้งลงสู่ใจกลางเมือง
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
ใครเอ่ย? หน้าคุ้นๆ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
สภาพเมืองฮิโรชิม่า พัง ย่อยยับ ราบเป็นหน้ากลอง
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
แบบจำลองสภาพเมืองในสภาวะปกติ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
หลังจากถูกทิ้งระเบิดลงมาแล้ว แทบไม่เหลืออะไรเลย
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
สภาพผู้คนที่รอดชีวิตหลังจากโดนระเบิดปรมาณู เสื้อผ้าขาดวิ่น ผิวหนังไหม้ ผมตั้งชี้ฟู เหมือนที่เราเคยเห็นในการ์ตู
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
สภาพเด็กที่สูญเสียครอบครัว
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
โทรเลขจากเจ้าเมืองฮิโรชิม่
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
กลุ่มประเทศที่มีนิวเคลียร์ในครอบครอง
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
เริ่มเข้าสู่บรรยากาศจำลองซากปรักหักพัก มีเสื้อผ้า ของใช้ ที่เสียหายจากการโดนระเบิดมาแสดงโชว์ไว้ที่นี้ อีกทั้งจัดแสดงหุ่นคน ที่โดนนิวเคลียร์ เสื้อผ้าขาด ผิวไหม้ หน้าเปรอะเปื้อน พร้อมจัดไฟที่สมจริงมาก มองดูแล้วตกใจสุดขีด (แต่ก็ยังอุตส่าห์ถ่ายรูปเก็บไว้) นอกจากนั้น ยังมีอวัยวะของผู้ที่เสียชีวิตจากกัมมันตภาพรังสี มาแสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของระเบิดปรมาณูครั้งนี้
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สันติภาพ
บันไดหน้าสถานที่แห่งหนึ่งในฮิโรชิม่า ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นธนาคาร มีคนมานั่งรอธนาคารเปิดตรงบันไดแห่งนี้ พอระเบิดปรมาณูลง จึงมีรอยดำไหม้เป็นรูปคนนั่งตรงบันไดพอดี
สวนสันติภาพ
ออกจากพิพิธภัณฑ์มาแล้ว ไม่มีความรู้สึกใดนอกเหนือจาก ขอให้โลกนี้มีแต่สันติสุข ต่อเนื่องไปตราบนานเท่านาน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ ที่เราประทับใจมาก เข้มข้นเหลือเกิน ออกมารู้สึกเหมือนไปนั่งเรียนมาสองชั่วโมง ค่าเข้าก็ถูกแสนถูก แค่ 50 เยนเอง ทำดีขนาดนี้อยากจะให้สัก 500 เยนไปเลย 555
สวนสันติภาพ
ซากุระในสวนสันติภาพ เพิ่งจะเริ่มบาน ยังมีอยู่ประปราย น้อยมาก
สวนสันติภาพ
ก่อนกลับขอสักภาพไว้เป็นที่ระลึก
สวนสันติภาพ
บ๊าย บายยย ฮิโรชิม่า เดี่ยวเราจะต้องเดินทางไปเที่ยวกันต่อที่ เมืองเก่าคุราชิกิ
ฮิโรชิม่า
ออกจากสวนสันติภาพ เดินข้ามถนนมาขึ้นรถรางที่เดิม ขึ้นรถรางสาย 2 ไปที่สถานีฮิโรชิม่า ค่าตั๋ว 150 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
hiroshima station
ถึงแล้ว……สถานีฮิโรชิม่า
ราเมน ตู้กด
ก่อนออกเดินทางไปคุราชิกิ แวะทานอาหารรองท้องก่อน เราเลือกทานอะไรง่ายๆ ในสถานีฮิโรชิม่านี่แหละ เห็นว่ามีอาหารที่กดตู้สั่งด้วย ไม่เคยลอง เลยไปลองสักหน่อย
ราเมน ตู้กด
ภายในร้าน เป็นแบบยืนกิน มีเก้าอี้ให้เพียง 1-2 ตัวเท่านั้น
ราเมน ตู้กด
เราสั่งเป็นราเมนหน้าตาแบบนี้มา ประทับใจในรสชาติมากๆ อร่อยจริงๆ โดยเฉพาะผักที่เห็นในภาพ อร่อยมาก ใครรู้จักชื่อบ้างบอกที หากินในไทยได้ไหมเนี่ย อะเมซซิ่งมากๆ ผักก็ทำให้มีรสชาติด้วย
shinkansen
กินเสร็จแล้ว ได้เวลาเดินทางไปคุราชิกิ เรานั่งชินคันเซนจาก Hiroshima มาลงที่ Okayama ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จากนั้นขึ้นรถไฟ มาลงที่ JR Kurashiki ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงคุราชิกิแล้ว
ถึงสถานี Okayama แล้ว
kurashiki
จากนั้นขึ้นรถไฟ มาลงที่ JR Kurashiki ใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงคุราชิกิแล้ว
kurashiki
สวนหย่อมนาฬิกา หน้าสถานีคุราชิกิ เรามาถึงคุราชิกิ เวลาประมาณ 17.50 น. ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว
kurashiki
ระหว่างทางเดินไปชมเมืองเก่า เจอฝาท่อคุราชิกิ เป็นรูปต้นหลิว
คุราชิกิ
จากสถานีคุราชิกิ ข้ามสะพานลอยมา เดินผ่านไปอีกประมาณ 7 ซอย ไกลนิโหน่ย (แต่คนมาด้วยบอกว่าไกลม๊ากกก) ก็ถึงทางเข้าชมเมืองเก่าคุราชิกิแล้ว
คุราชิกิ
มาเดินชมเมืองเก่าคุราชิกิ ตอนเย็นย่ำ โพล้เพล้ ก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ เงียบมาก คนแทบไม่เหลือแล้ว ร้านรวงเริ่มปิดไปหมด
คุราชิกิ
เราก็เดินชม ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ น่าเสียดายที่ต้นหลิวโกร๋นไปหน่อย ซากุระก็ยังไม่บานเลย
คุราชิกิ
บ้านเมืองแถวนี้ ยังอนุรักษ์แบบดั้งเดิมไว้ เป็นเสน่ห์อีกอย่างนึง ให้เราได้ชมคุราชิกิได้สวยงามยิ่งขึ้น
คุราชิกิ
คุราชิกิ
ฟ้ามืดลงแล้ว ใช้เจ้าคอมแพคตัวเล็ก ถ่ายดวงจันทร์ ได้เป็นจุดๆ บนยอดไม้ 555
คุราชิกิ
คุราชิกิ
เดินมาประมาณกึ่งกลางซอย เราก็มานั่งพัก สงบนิ่ง มองคุราชิกิยามเย็น ในคลองคุราชิกิมีปลาคาร์ฟเยอะมาก ตัวใหญ่ๆ เท่าต้นขาทั้งนั้นเลย
คุราชิกิ
คุราชิกิ
นั่งชิลอยู่พักนึง เดอะแกงค์อีกสองคนที่แยกตัวไปดูสวนคุระโคเอ็น ที่โอคายามะ ก็มาเจอกันกับเราโดยมิได้นัดหมาย พวกเราเน้นเที่ยวตามใจใครอยากไปไหนก็แยกกันเที่ยวได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในเส้นทางเดียวกัน จะเจอกันกลางทางบ่อยมาก อย่างกับเดินอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ
คุราชิกิ
คุราชิกิ
ถึงฟ้ามืดแล้ว ก็สวยไปอีกแบบ
คุราชิกิ
ออกจากเมืองเก่าคุราชิกิมา ฟ้ามืดสนิทแล้ว เตรียมตัวเดินทางกลับโอซาก้า ก่อนกลับได้มีโอกาสเห็น นาฬิกาเต้นระบำที่หลังสถานีคุราชิกิ พอถึงเวลาต้นชั่วโมง ส่วนยอดของนาฬิกาจะเปิดขึ้น และมีตัวการ์ตูนออกมาเต้นตามเพลง 4 เรื่อง 4 เพลง
คุราชิกิ
เพลงจบแล้ว
คุราชิกิ
เป้าหมายต่อไป กลับบ้านเรา Shin-Osaka
shinkansen
ซิ่งกลับบ้านด้วยเจ้าหัวกระสุน ขบวนนี้ บ๊ายบายยย คุราชิกิ รีบกลับไปพัก พรุ่งนี้มีโปรแกรมเที่ยวเมืองหลวงเก่า ตามรอยวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่เกียวโตกันจ้าาาา
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตามรอยซากุระย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (1) วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (3) เที่ยวโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ หอคอยซึเทนคะคุ ออนเซน ที่ Spa World
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (4) เที่ยวฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิม่า ศาลเจ้าลอยน้ำ เมืองเก่าคุราชิกิ
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (7) เที่ยวคามาคุระ-โยโกฮาม่า
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (9) ชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Kawagujiko Lake เจดีย์แดง Chureito Pagoda
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (11) โตเกียวดิสนีย์ซี Tokyo Disney Sea ศาลเจ้าเมอิจิ Meiji Jingu Shrine
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (13) วัดอาซากุสะ Sensoji Temple Asakusa ชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ Sumida Park
Travel by deeryarch