แวะอ่านตอนที่ (9) ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (9) ชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Kawagujiko Lake เจดีย์แดง Chureito Pagoda
วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าแจ่มใสสุดๆ เรามาเที่ยวในโตเกียวกันบ้าง หลังจากเที่ยวต่างจังหวัดของญี่ปุ่นมาหลายวัน โดยวันนี้มาเริ่มเที่ยวกันที่ พระราชวังอิมพีเรียล หรือพระราชวังโตเกียว
วิธีเดินทาง Tokyo Metro Chiyoda Line ลงที่ สถานี NIJUBASHIMAE
พระราชวังอิมพีเรียล เป็นที่ประทับขององค์จักรพรรดิ์ของญี่ปุ่น ตอนที่เรามาเที่ยวนี้ เราไม่ได้เข้าไปเที่ยวด้านในพระราชวัง แต่เราสามารถเดินชมสวนตะวันออกและชมบรรยากาศภายนอกได้ และที่ไม่ควรพลาดคือ สะพานนิจูบาชิ หรือสะพานแว่นตา ที่คนส่วนใหญ่ต้องมาถ่ายรูปที่จุดนี้ไว้เป็นที่ระลึก
ข้างๆ สะพานนิจูบาชิ พวกเราเห็นต้นซากุระบานสะพรั่ง กิ่งย้อยลงน้ำอยู่ต้นหนึ่ง เราตื่นเต้นมาก มาญี่ปุ่นหลายวันเพิ่งจะได้เห็นซากุระบานเต็มที่ก็ต้นนี้นี่เอง
อดใจไม่ไหว ต้องเดินมาดูใกล้ๆ จัดไปหลายๆ ช็อตเลย…..ช็อตแรกกับ ซากุระย้อนแสง
มายลโฉมใกล้ๆ ……. พวกเราสาละวน พัลวัน กับเจ้าซากุระต้นนี้อยู่ครู่ใหญ่ เดี๋ยวต่อจากนี้เราต้องไปเดินชมสวนตะวันออกกันบ้าง
เดินกลับมาทางเดิม ผ่านสะพานนิจูบาชิอีกครั้ง เพื่อไปเที่ยวชมสวนตะวันออก เดินไปทางเหนือประมาณ 500 เมตร ไปทางประตู Otemon Gate ซึ่งเป็นทางเข้า East Garden หรือสวนตะวันออก
เจอซากุระเบี้ยบ้ายรายทาง ส่วนใหญ่บานสะพรั่งเต็มที่ เราก็ถ่ายมาเกือบทุกต้นเลยนะ ขอบอก ^__^
ต้นเล็ก ต้นใหญ่ เราก็ไม่เว้น เพิ่งจะได้มาเห็นเต็มๆ ตื่นเต้น กดชัตเตอร์ใหญ่เลย
ตามเส้นทางนอกจากจะมีต้นซากุระแล้ว ยังมีต้นหลิว ระย้าย้อยเหมือนมู่ลี่ ให้ชมแถวๆริมน้ำด้วย
รูปปั้นปลา บริเวณหน้าประตูทางเข้าสวนตะวันออก Otemon Gate
เมื่อเดินมาถึงบริเวณด้านใน กว้างใหญ่มาก มีต้นซากุระที่กำลังผลิบาน และที่บานเต็มที่แล้วอยู่มากมาย
วันนี้เป็นวันที่เจอซากุระเป็นวันแรก ช่างเป็นวันแห่งซากุระเสียจริง ซากุระเยอะมากกก
ลั๊นลาาาา…อยู่ในดงซากุระอยู่เนิ่นนาน
เปลี่ยนมาชม Tenshudai Donjon Base ฐานปราสาทส่วนที่เหลือ หลังจากถูกไฟไหม้ เมื่อปี ค.ศ. 1657
มาชมด้านข้างของ Tenshudai Donjon Base บ้าง เทียบกับคนแล้วกว้างใหญ่พอสมควร ประกอบด้วยหินเรียงรายเป็นระเบียบ
เที่ยวชมฐานปราสาทเอโดะแล้ว มาชมซากุระบริเวณใกล้ๆ ฐานปราสาทกันบ้าง
หลังจากชมสวนตะวันออกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เดินข้ามสะพานจากประตูทางออกมาชม ซากุระ Chidorigafuchi กันบ้าง
ซากุระมีตลอดรายทาง บางต้นบานเต็มที่แล้ว บางต้นเพิ่งเริ่มผลิดอก แต่โดยรวมก็ทำให้ตลอดทางเดินมีสีสันมากขึ้น
Chidorigafuchi เป็นสถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงอีกแห่งนึงในโตเกียว
ถ้าซากุระบานเต็มที่คงจะสวยงามมากๆ
หลังจากชมซากุระที่พระราชวังอิมพีเรียลจนเต็มอิ่มแล้ว เรามาเดินชม ช้อป กันต่อที่ ฮาราจูกุ แหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่น และคอสเพลย์ วันนี้คนเยอะมากกกก
วิธีเดินทาง สามารถเดินทางไปได้ทั้งสองทางทั้ง Tokyo Metro หรือ รถไฟ JR
- Tokyo Metro Chiyoda Line ลงที่ MEIJIJINGUMAE ออกจากสถานีแล้วเดินไป ฮาราจูกุ ประมาณ 5 นาที
- JR Yamanote Line ลงที่ Harajuku Station ทางออก Takeshita
มาถึงฮาราจูกุแล้วต้องมาชิมเครปซะหน่อย เรามาต่อคิวซื้อเครปกันที่ร้านนี้ Marion Crepes โดยเราสั่งเครปเบอร์ 53 หรือ 57 ก็ไม่รู้ ถ้าจำไม่ผิด เป็นเครปไอศกรีมชอกโกแลตและมีสตรอเบอรี่สดด้วย อร่อยมว๊ากกกกก พูดแล้วก็อยากกินอีก T0T
วันที่เรามาเที่ยวฮาราจูกุนี้ เป็นวันอาทิตย์ พวกเรากะมาเดินกันในวันหยุดเผื่อจะได้เห็นเด็กๆ แต่งคอสเพลย์มาเดินให้ชม แต่วันนี้ไม่ค่อยมีใครแต่งคอสเพลย์มาให้ชมเท่าไร เห็นก็มีแต่สาวสองคนนี้ที่จัดเต็มกันมา เราก็เลยแชะภาพมาได้เท่านี้เพราะแอบถ่ายมา อิอิ ^^
หลังจากเดิน ชม ช้อป แช๊ะภาพที่ฮาราจูกุแล้ว ที่ต่อไปเรามาชิมทิวทัศน์เมืองโตเกียวในมุมสูงกันที่โตเกียวทาวเวอร์กันบ้าง
วิธีเดินทาง Toei Subway Oedo Line ลงที่สถานี AKABANEBASHI
ระหว่างทางเดินไปโตเกียวทาวเวอร์ เดินผ่านเข้าไปในวัดโซโจจิ ( Zojoji Temple ) ภายในวัดกำลังจัดงานอะไรอยู่สักอย่าง
คนมาร่วมงานค่อนข้างเยอะเลย มองเข้าไปด้านในวัด เห็นโตเกียวทาวเวอร์ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหลังวัดนั่นไง ^_^
ในงานมีร้านต่างๆ นำของมาขาย ทั้งของกิน ของเล่น ได้บรรยากาศงานวัดแบบญี่ปุ่นๆ ละลานตา ดีไปอีกแบบ
เที่ยวชมบรรยากาศงานวัดญี่ปุ่นแป๊บนึง พวกเราเดินออกมาทางข้างวัด เดินตามถนนเส้นนี้เพื่อมุ่งหน้าสู่โตเกียวทาวเวอร์ ลอดอุโมงค์ต้นซากุระที่บ้านแผ่กิ่งก้านคลุมถนน ลมพัดกลีบซากุระปลิวหล่นลงมา บรรยากาศดีมาก จนคิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหนังอยู่เลย 555
นั่นไง จุดหมายปลายทางของเรา
ใกล้ช่วงเวลาแดดร่มลมตกเต็มที
เดินมาเรื่อยๆ ประมาณ 5 นาทีจากวัดโซโจจิ และแล้วก็มาถึง โตเกียวทาวเวอร์ \\^0^//
โตเกียวทาวเวอร์ เป็นหอคอยโครงเหล็กสีแดงรูปร่างคล้ายๆ หอไอเฟล ประเทศฝรั่งเศส เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองโตเกียว โดยทำหน้าที่เป็นเสาสัญญาณกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์เมืองโตเกียวด้านบนได้ด้วย
โตเกียวทาวเวอร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 09.00-22.00 น. ค่าเข้าชม จุดชมวิว 150 เมตร 820 เยน / จุดชมวิว 150 เมตรและ 250 เมตร 1,420 เยน / จุดชมวิว 150 เมตรและ Wax Museum 1,520 เยน
เราขึ้นไปแค่บริเวณจุดชมวิว 150 เมตร มีพื้นกระจกใส ให้ได้ลองไปยืน ชมวิวที่บริเวณด้านล่างด้วย ตื่นเต้นดีไปอีกแบบ ^^
เที่ยวชมอยู่บนโตเกียวทาวเวอร์อยู่พักใหญ่ ใกล้ค่ำแล้ว ได้เวลาบอกลาโตเกียวทาวเวอร์ จุดหมายต่อไป เราจะไปเที่ยวกันต่อที่ โอไดบะ
บรรยากาศภายในรถไฟ Yurikamome
วิธีการเดินทางไปโอไดบะ เริ่มต้นที่สถานี Shimbashi เดินออกจากสถานีไปนิดหน่อย จะเจอกับสถานีรถไฟอีกสายหนึ่ง คือ สาย Yurikamome ยูริคาโมเมะ ข้ามสะพานสายรุ้งไปยังโอไดบะ โดยขบวนรถไฟ Yurikamome นี้ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ไม่มีคนขับ
หลังจากรถไฟ Yurikamome ข้ามสะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge) มาแล้ว พวกเราลงที่สถานี U06 Odaiba-kaihinkoen ออกจากสถานีแล้ว เดินไปทางสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้าย เดินตรงไปอีกหน่อยจะพบกับชายหาด พวกเราเดินเที่ยวตามชายหาดมาเรื่อยๆ บรรยากาศดี เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ เราเห็นคู่รักหลายๆคู่ มาเดินกินลมชมวิวกัน บางคู่ก็เอาวิทยุมาเปิดเพลงเต้นรำ กอดกันอยู่ริมชายหาด เหมือนอยู่ในโลกส่วนตัว เราเห็นแล้วเราก็รู้สึกผ่อนคลาย มีความสุขไปด้วย
จากจุดชายหาดนี้ มองออกไปจะเห็นสะพานสายรุ้ง เป็นสะพานแขวนที่เรานั่งรถไฟข้ามมา นอกจากทางรถไฟแล้ว ก็ยังมีทางสำหรับรถยนต์ด้วย
จากฝั่งโอไดบะนี้ เมื่อมองไป นอกจากจะเห็นสะพานสายรุ้ง และเมืองโตเกียวเป็นฉากหลังแล้ว เรายังสามารถเห็นโตเกียวทาวเวอร์ ได้จากทางฝั่งโอไดบะด้วย หากมาชมในตอนกลางคืน โตเกียวทาวเวอร์จะส่องไฟ ส่องแสง แดงเรืองรอง มองเห็นแต่ไกลเลยล่ะ ^^
เดินมาเรื่อยๆ ตามชายหาด จะเจอกับสิ่งของจัดแสดงตามทาง เช่น สมอเรือ และจะเจอกับ อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ แบบเดียวกับที่อเมริกาแต่มีขนาดเล็กกว่า ที่จุดนี้ถือเป็นจุดชมสะพานสายรุ้งที่สวยที่สุดได้วิวครบเลย ทั้งเทพีเสรีภาพ สะพานสายรุ้ง โตเกียวทาวเวอร์ และเมืองโตเกียว
เมื่อเราถ่ายภาพที่จุดเทพีเสรีภาพนี้เสร็จแล้ว เราเพิ่งนึกออกว่า เราลืมกระเป๋าเป้ทั้งใบ ที่เราสะพายหลังมาตลอดทั้งวัน ไว้ที่ห้องน้ำชายหาดโอไดบะ พอนึกขึ้นได้ รู้สึกถึงภาวะวิกฤตขึ้นมาทันที เพราะในนั้นมีกระเป๋าสตางค์ พาสปอร์ต และของจำเป็นอื่นๆ อยู่ในนั้น เราต้องรีบวิ่งไปอย่างไม่คิดชีวิต เหนื่อยก็ไม่หยุด วิ่งๆๆๆๆ ประมาณ 500 เมตรได้มั้ง เพื่อไปเอากระเป๋า พอไปถึงห้องน้ำ ปรากฏว่ากระเป๋ายังแขวนอยู่ที่เดิม และของทุกอย่างอยู่ครบ โชคดีจริงๆ เลย…… โล่งอก……(เป้ใบก็ใหญ่ ลืมได้ลงคอ ทริปนี้ลืมของสำคัญๆ สองครั้งแล้ว ครั้งที่แล้วลืมกล้องตัวใหญ่ ครั้งนี้ลืมกระเป๋าทั้งใบเลย ไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะลืมอะไรอีก ^__^ หากได้ย้อนกลับไปอ่านตอนแรก จะพบว่า ก่อนขึ้นเครื่องมาญี่ปุ่น เราลืม JR Pass ไว้ที่บ้าน 555 คงคอนเซปท์ขี้ลืมทั้งทริป)
จากจุดชมวิวอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เรานั่งรถไฟมาลงที่สถานี U10 Aomi เพื่อมาเดินชมห้างวีนัส ฟอร์ท (Venus Fort) เป็นห้างที่ตกแต่งอลังการในสไตล์เรอเนซองส์ มีการจำลองน้ำพุ โบสถ์ มาตกแต่งประดับประดา และที่เป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจ คือหลังคา เป็นรูปท้องฟ้า ก้อนเมฆ ที่สามารถเปลี่ยนสีได้เรื่อยๆ
เดินชมมาเรื่อยๆ พนักงานทักทายถามว่าเรามาจากประเทศอะไร พอเราบอกว่าไทยแลนด์ พนักงานคนสวย พูดคำว่า “สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับ” และยิ้มให้ ชี้ชวน แจกใบปลิวให้ซื้อของแบบพอเป็นพิธี……เจ๋งเนอะ !!!
บริเวณลานน้ำพุสุดอลังการ กับท้องฟ้าสีน้ำทะเล
ที่บริเวณข้างๆ ห้างวีนัสฟอร์ท มีสถานที่จัดแสดงรถยนต์และนวัตกรรมยานยนต์ของโตโยต้าไว้ให้ชมด้วย
พวกเราเดินชมอยู่แค่นิดหน่อย พอดีว่าไม่ค่อยรู้เรื่องยานยนต์เท่าไรนัก ที่นี่นอกจากจะแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ของโตโยต้าแล้ว ยังมีการจัดแสดงรถยนต์ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นในอนาคตด้วย สำหรับใครที่ชื่นชอบยานยนต์หรือเป็นสาวกโตโยต้า ก็ไม่ควรพลาดที่นี่นะ ^__^
มิชชั่นต่อไป เดี๋ยวเราจะนั่งชิงช้าสวรรค์พาเลตทาวน์ (Palate Town) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับ Toyota Universal Design Showcase เพื่อชมเมืองโตเกียวและโอไดบะยามค่ำคืนกัน ระหว่างทางขึ้น มีป้ายบอกให้เลือกว่าเราจะนั่งชิงช้าสวรรค์แบบธรรมดา หรือจะเป็นแบบกระจกซีทรู มองเห็นรอบด้าน
แน่นอนว่า วัยรุ่นอย่างเรา ต้องเลือกแบบซีทรูอยู่แล้วววว….ไปกันเลยดีกว่า เล็ทสะโกววว
นี่คือหน้าตาของ กระเช้าแบบธรรดา จะเป็นสีสันมากมาย หลากหลาย
มาแล้วจ้า กระเช้าซีทรู
กระเช้าซีทรูที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง กระจกไม่ใส ไร้ความเสียวเลย….
วิวเมืองโตเกียวยามค่ำคืน เมื่อมองจากชิงช้าสวรรค์
แสงสี ดูมีเสน่ห์ไม่น้อย แม้จะมองผ่านกระจกมัวๆ ก็ยังโอเค
นั่งจนครบรอบแล้ว ใช้เวลาไม่นานมาก ตอนนี้สามทุ่มแล้ว เป็นอันต้องบอกลาชิงช้าสวรรค์แล้วไปหาอะไรกินที่ห้างวีนัสฟอร์ทก่อนกลับบ้าน เตรียมความพร้อม พรุ่งนี้เราจะไปผจญภัยกันต่อที่ โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disney Sea) จ้าาาาา
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตามรอยซากุระย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (1) วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (3) เที่ยวโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ หอคอยซึเทนคะคุ ออนเซน ที่ Spa World
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (4) เที่ยวฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิม่า ศาลเจ้าลอยน้ำ เมืองเก่าคุราชิกิ
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (7) เที่ยวคามาคุระ-โยโกฮาม่า
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (9) ชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Kawagujiko Lake เจดีย์แดง Chureito Pagoda
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (11) โตเกียวดิสนีย์ซี Tokyo Disney Sea ศาลเจ้าเมอิจิ Meiji Jingu Shrine
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (13) วัดอาซากุสะ Sensoji Temple Asakusa ชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ Sumida Park
Travel by deeryarch