ท่าอากาศยานนานาชาติ สุวรรณภูมิ คืนวันที่ 13 มกราคม 2554
ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย สู่ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน เกาหลีใต้ ด้วยสายการบินเจจูแอร์ สายการบินโลว์คอสของเกาหลี
ได้ตั๋วมาแล้วววว………..
ใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องไปเกาหลีแล้ว พวกเราวิ่งกันสุดขีด แต่ก็ยังแวะซื้ออานตี้แอนส์ได้แป๊บนึง 555 เกทก็ไกล๊ ไกล เหนื่อยมาก แต่พอเมื่อได้ขึ้นมาบนเครื่องแล้วหายเหนื่อยเลยทันที เนื่องจากสจ๊วตหนุ่มเจจูคนนี้น่ารักมว๊ากกกก ตี๋ หล่อ สะอาด อร๊ายยยส์ >_< เราเลยหิวน้ำบ่อยหน่อย เรียกเค้ามาเสิร์ฟน้ำตลอดเลย นิสัยไม่ดีเลยอะ ไม่ให้เค้าพักผ่อนบ้าง แต่ด้วยหัวใจบริการที่เต็มเปี่ยมของสจ๊วตหนุ่มหล่อ เค้าก็ยังยิ้มให้ทุกครั้งที่มาบริการเสิร์ฟน้ำให้ ว๊ายๆๆๆ น่ารัก
เวลาประมาณ o5.ooน. เวลาไทย แต่ที่เกาหลีจะเร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง เท่ากับว่าตอนนี้ที่เกาหลีเป็นเวลา 07.00น. แล้ว เว้ยยย….นอนยังไม่ทันฝันเลย แอร์โฮสเตสก็มาเสิร์ฟอาหารเช้า ตอนนั้นไม่มีอารมณ์กิน เลยแอบพกใส่กระเป๋าไปบางส่วน จากนั้นก็กรอกใบศุลกากร ใบตม. และอื่นๆให้เรียบร้อย
Credit By Momod
ระหว่างทางมองออกไปทางหน้าต่างฟ้าเริ่มสว่าง พื้นโลกช่างสวยงามซะจริงเลย (^_^)
Credit By พี่ตูน
ถึงอินชอนประมาณ 8.00น. ตามเวลาท้องถิ่น
Credit By พี่ตูน
นั่งชัตเติ้ล เทรน เพื่อจะไปผ่านจุด ตม.
ชัตเติ้ลเทรน วิ่ง วู้ๆๆๆๆ แป๊บเดียวก็มาถึง ส่วนที่ต้องไป ตม.
ตม. เกาหลี โหดเรียกพี่ จริงรึเปล่า?!?
ใกล้ถึงด่าน ตม. ตื่นเต้นมาก… เพราะอ่านมาเยอะ มีแต่คนบอกว่าตม.เกาหลีโหดจริงนะแม่เอ๊ยยยย!!! พอถึงตรงหน้าเจ้าหน้าที่ เราก็ยื่นพาสปอร์ตและพูดว่า “อันยองฮาเซโย” เจ้าหน้าที่ตอบรับด้วยสายตาเย็นชา ไร้ซึ่งอัธยาศัย (ทำเป็นเข้ม) และก็ปั๊ม ตึ่ง!!! ยื่นพาสปอร์ตให้ เรางงงวยนิดหน่อยและกล่าว “คัมซาฮัมนีดา” หยิบพาสปอร์ตและหอบเอกสารต่างๆ เดินจากมา
Credit By พี่ตูน
บรรยากาศหน้าสนามบินอินชอน พร้อมแดดอ่อนๆ ในตอนเช้าาาาาาาา
” Welcome to Korea “
และแล้วก็ผ่าน ตม. ที่ใครๆว่าโหดนี้มาอย่างง่ายดาย โอ้ยย!! ดีใจสุดๆ ได้เที่ยวเกาหลี จริงๆแล้วเว่ยยย เตรียมเอกสารไปมากมาย สุดท้ายไม่ได้ใช้สักอย่าง เจ้าหน้าที่ดูพาสปอร์ต ดูหน้า ปั๊มผ่านมาได้อย่างฉลุย จากนั้นเดินทางเข้าโซล โดยรถลีมูซีนที่ได้ติดต่อเอาไว้มารับ และไปส่งสนามบินในวันกลับ
ระหว่างทางที่นั่งมาในรถ
อากาศเย็นมาก อุณหภูมิติดลบ จนกระจกเป็นไอ คนขับรถที่มารับบอกว่า หิมะเพิ่งตกไปเมื่อตอนเช้าๆ นี้เอง เอ๊ะ!! นี่เราก็มาเช้านะ สงสัยหิมะตก ตอนที่เราอยู่บนเครื่องกระมัง…..
ในภาพที่เห็นเป็นสะพานข้ามแม่น้ำฮัน รถเราก็กำลังมุ่งหน้าไปทางทิศนั้น
สักพักคนขับรถก็จอดรถที่ข้างทาง เปิดประตู เดินลงไปเอาหิมะปาใส่กระจกรถ เฮ้ย!! เค้าทำอะไรวะ ทำเอาคนในรถงงกันเป็นแถบๆ
จากนั้นเค้าก็เดินมาเปิดที่ปัดน้ำฝน อ๋อ…..ล้างกระจกรถนี่เอง แหม!! แนวมากกกก
ขับมาผ่านสถานที่ เหมือนจะเป็นที่สำคัญๆที่หนึ่ง และก็ถึงบางอ้อว่านี่คือ พระราชวังเคียงบกกุง นี่เอง เราเริ่มเที่ยวที่นี่เป็นที่แรก โดยฝากกระเป๋าไว้บนรถก่อน
บรรยากาศแรก ทางเข้าพระราชวังเคียงบกกุง
มาทันเวลาทหารเปลี่ยนเวรยามพอดี
มาดูทหารเปลี่ยนเวรยามได้แป
ทหารเหล่านี้จริงแล้วเค้าเป
เดินเข้ามาชมภายในบริเวณวัง
ได้บรรยากาศเหมือนเดินอยู่ใ
พระตำหนักเคียงเฮรู (ถ้าจำชื่อไม่ผิด) เป็นพระตำหนักกลางน้ำ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็ง เห็นด้วยตาสวยงามมาก เสียดายไม่มีฝีมือถ่ายภาพมา
ข้างๆตำหนักเคียงเฮรู สวยงามมาก ได้บรรยากาศสุดๆ ชอบมากๆ
เวลาไม่ค่อยมี เริ่มเดินออกมาเรื่อยๆ
ได้บรรยากาศมาก สวยจัง
Credit By พี่ตูน
หนาวมาก ที่จริงอยากปิดตาไปเลยด้วยซ
ต่อจากวังเคียงบก มาเดินต่อที่อินซาดง ซึ่งเป็นย่านถนนศิลปะ มาหาข้าวกลางวันทาน ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมากนัก เนื่องจากหนาวมาก
Credit By พี่ตูน แวะซื้อขนมร้อนๆ เดินกิน ระหว่างหาร้านทานข้าว
Credit By พี่ตูน เหมือนจะเข้าไปทานข้าวในซอยนี้
หนาวมาก ปรับตัวยังไม่ได้ ขอกลับโรงแรมเอาของไปเก็บและไปแปลงร่างก่อน
หน้าโรงแรมฮิลเฮาส์ ที่ดีห้องดีมาก บริการดีด้วย ราคาไม่แพงมาก แพงกว่าเกสเฮาส์นิดเดียว
มาเดินเมียงดงกะเค้าบ้าง ที่พักอยู่ห่างเมียงดง 1 ป้ายซับเวย์
Credit By พี่ตูน มาเมียงดงเพื่อจะมาดูโชว์นั
รายชื่อนักแสดงกลุ่มต่างๆ แสดงกันเก่งมากๆ
บรรยากาศเวทีนันทาก่อนเริ่ม
Credit By พี่ตูน ออกจากโรงละครนันทาเพื่อไปก
Credit By พี่ตูน
หลังจากกินอิ่มท้องแล้ว ก็มาเดินสำรวจ สปาโอ้ กันต่อ หลังจากนั้นก็กลับเข้าที่พัก แยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย