แวะอ่านตอนที่ 3 ที่นี่จ้า >> เที่ยวเวียดนาม ตอนที่3 ฮาลองเบย์ ถ้ำเทียนกุง หมู่บ้านชาวประมง Vung Vieng Fishing Village
วันที่ 6 กันยายน 2556 วันนี้เรามีแพลนไปเที่ยวฮาลองบก ฮวาลือ ตามก๊อก กัน เวลาเดิมประมาณ 08.00 น. รถของทัวร์มารอรับที่หน้าโรงแรม จากนั้นก็วนรับแขกตามโรงแรมอื่นๆ ใช้เวลาประมาณ 50 นาที คนจึงครบ พาหนะวันนี้เป็นมินิบัสเหมือนเดิม แต่คนเพิ่มจากเมื่อวานอีกเท่าตัว คนตัวใหญ่ๆ ก็ทนเบียดเสียดยัดเยียดกันไป กว่าจะได้ออกจากฮานอยก็ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จนเราเริ่มปวดฉี่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ทนไปอีกประมาณ 2 ชม. รถคงจอให้พัก
พอคนครบแล้วไกด์จึงเริ่มพูดคุยแนะนำตัว บอกว่าชื่อ King Peter จริงๆแล้วเค้าก็มีชื่อเวียดนามนั่นแหละ แต่ให้เรียกเป็นภาษาอังกฤษเพื่อความสะดวกสำหรับลูกทัวร์ ชื่อ King Peter ฟังไปฟังมานึกถึง King Power ซะงั้น เรากลัวจะหลุดปากเรียกผิดออกไป จึงเรียกสั้นๆว่า Peter แทน
Peter เป็นคนที่มีอารมณ์ขัน และมุกเยอะมาก ช่วงที่อินโทรสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่จะไปในวันนี้ ไกด์ก็อธิบายอีกว่า ถนนหนทางวันนี้ไม่ค่อยจะดีนัก มีหลุมมีบ่อมาก เวลารถตกหลุมโขยกเขยกไปมา ให้ลูกทัวร์ทุกคนถือซะว่าได้นวดฟรีตลอดทาง 555
วิวสองฝั่งระหว่างทาง มากมายไปด้วยนาข้าวผืนใหญ่ เขียวชอุ่ม
นั่งรถมาพักใหญ่ๆ พวกเราก็มาถึงที่แรกนั่นคือ ฮวาลือ (Hoa Lu) เมืองหลวงเก่าของเวียดนาม ก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปเป็นฮานอย เมื่อ 1000 กว่าปีที่แล้ว
ซุ้มประตูนี้สวยงามมากเลย เราก็ลืมถาม Peter มา ไม่รู้ว่าซุ้มประตูนี้มีชื่อรึเปล่า
พ้นซุ้มประตูเข้ามาแล้ว มาเริ่มเที่ยวที่แรกกันที่ วัดดิงห์เตียนฮว่าง (Dinh Dynastic Temple) หรือเรียกอีกชื่อก็ได้ว่า วัดดิงห์คิง (อันนี้ปีเตอร์บอกเรามา)
บริเวณทางเข้าชมวัด มีสองสาวช่างภาพรับจ้าง เราถ่ายมาโดยไม่ทันดูว่าเธอทั้งสองหันมามองกล้องด้วย โดยสาวเสื้อชมพูโปรยยิ้มหวานให้กล้อง เราเพิ่งมาสังเกตตอนเขียนบล๊อกนี่เอง ลองซูมๆดู อุ๊ย!! เค้ายิ้มให้ด้วย ^_^
วัดดิงห์เตียนฮว่าง หรือ วัดดิงห์คิง เป็นวัดที่สร้างให้กับกษัตริย์ Dinh Tien Hoang ราชวงศ์ดิงห์
สถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ออกแนวจีนๆ คงเพราะเวียดนามมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศจีน ทำให้วัฒนธรรมหรือศิลปะหลายๆ อย่างดูคล้ายกัน
เข้ามาเคารพรูปปั้นกษัตริย์ Dinh Tien Hoang แห่งราชวงศ์ดิงห์
เที่ยวชมวัดดิงห์เตียนฮว่าง หรือ วัดดิงห์คิง เรียบร้อยแล้ว ที่ต่อไปเราจะไปชม วัดเลฮวาน (Le Dynastic Temple) หรือวัดเลคิง ซึ่งทั้งสองวัดนี้ตั้งห่างกันแค่ไม่กี่ร้อยเมตร เดินถึงกันได้ ระหว่างทางเดินไปชมวัดเลฮวาน Le Dynastic Temple หรือวัดเลคิง มีควายประดับด้วยเครื่องตกแต่งน่ารัก ยืนรอให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปด้วยกัน
สำหรับใครที่สนใจอยากถ่ายรูปกับน้องควายน่ารัก มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 10,000 VND จ้า จริงๆแล้วเราก็อยากลองขี่ดูบ้างนะ เกิดมายังไม่เคยขี่ควาย แต่เดี๋ยวไว้หาโอกาสขี่ควายที่ไทยสักครั้ง
วัดเลฮวาน (Le Dynastic Temple) หรือวัดเลคิง เป็นวัดที่สร้างขึ้นให้กับกษัตริย์ราชวงศ์เล วัดนี้จะคล้ายๆ กับวัดดิงห์เตียนฮว่าง หรือวัดดิงห์คิง
บริเวณวัดมีสระบัว ฝนตกใหม่ๆ ดูชุ่มชื่นมากๆ
หลังจากเที่ยววัดเลฮวานเสร็จแล้ว ไกด์พามาเดินตรงล้านกว้างๆ นี้ วิวสวยงามโอบล้อมไปด้วยภูเขา แต่น้ำขังเยอะ เราลื่นไปทีนึงเกือบหมดสวยเลย 555
ลานกว้างใหญ่ไพศาล ต้องค่อยๆ ย่องอย่างระมัดระวัง
ออกจากฮวาลือ นั่งรถมาอีกแป๊บนึงก็ถึง ตามก๊อก (Tamcoc) ไกด์พาลูกทัวร์ทุกคนมาทานอาหารที่ร้านนี้
อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์บริการตัวเอง กับข้าวโดยรวมแล้วขอใช้คำว่า “ไม่อร่อยอย่างไม่น่าให้อภัย” แต่ก็ต้องกินๆ ไปเพราะยังมีกิจกรรมอันยาวไกล โชคดีที่พกปลากระป๋องแบบยำ ปลาสามรส และหอยลายแบบกระป๋องไปด้วย ช่วยชีวิตได้เป็นอย่างมาก
หลังจากทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาล่องเรือชมความงามของสุดยอดธรรมชาติ…..ตามก๊อก (Tamcoc) หรือเรียกแบบไทยๆ ว่า ฮาลองบก
ลงเรือมาแล้วจ้า…..ได้คุณป้าเป็นคนพายเรือให้
ในช่วงระยะทางแรกๆ จะมีเรือตากล้องคอยโบกมือ เรียกทักทายให้เราหันไปหาเค้า เพื่อที่เค้าจะได้ถ่ายรูปแล้วนำมาขายให้กับเรา
ไม่ว่าจะกี่คนที่เรียกเรา เราก็ไม่เคยหันไปเลย แถมเอาผ้าคลุมหัวซะจนมองไม่เห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ แต่จนแล้วจนรอดก็หนีไม่พ้น เค้าก็ถ่ายเรามาทั้งๆ ที่ไม่เห็นหน้าอย่างนั้นแหละ เอามาเดินตามตื๊อขายเราจนได้ แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงมากประมาณรูปละ 1 USD เลยซื้อมาเป็นที่ระลึก
หลุดพ้นวงล้อมของเรือช่างภาพมาแล้ว ได้เวลาปล่อยตัวปล่อยใจชมธรรมชาติซะที…..สบายใจได้แค่หนึ่งนาที เรือของเราก็ไปจอดเลียบฝั่ง เพื่อรับคนมาช่วยพาย สรุปคนพายเรือของเรามีสองคนแล้วตอนนี้ เป็นคุณป้ากับคุณลุง เราคิดในใจ……อย่างนี้เราต้องเสียทิปสองเท่าสินะ
แต่ก็ทำไรไม่ได้แล้ว อย่าไปคิดมากเลย เที่ยวชมธรรมชาติให้เต็มที่กว่า…..บอกกับตัวเองอย่างนี้ 555
เมื่อเริ่มเข้าที่เข้าทาง บรรยากาศก็เริ่มสงบ บวกกับธรรมชาติทั้งสองฟากฝั่ง มันเป็นการพักผ่อนที่ลงตัวเหมือนกันนะ
สักแป๊บนึง คุณป้าชี้ให้ดูบนยอดเขา แล้วก็พูดภาษาเวียดนาม จะเห็นเป็นเหมือนรูปมังกรตัวยาวๆ และมีศาลา เราเลยถามกลับไปว่า Temple ?? คุณป้าไม่ตอบอะไร ยิ้มอย่างเดียวเลย 555 ไม่เป็นไร อย่างน้อยแกก็ชี้ให้ดูล่ะนะ
เตรียมลอดถ้ำแล้ว……ภายในถ้ำระยะทางไม่ยาวเท่าไร
เราชอบบรรยากาศที่ตามก๊อกนี้มากเลยนะ เงียบสงบ โอบล้อมด้วยขุนเขา…..อารมณ์คล้ายๆ ตอนไปพายคายัคที่อ่าวท่าเลน จ.กระบี่ เลย
พายมาอีกสักพักนึง คุณป้าพูดว่า Bird และชี้ให้ดูฝูงนกบนยอดเขา
มีบางตัวบินโชว์ ร่อนถลา ให้ดูด้วย
บางช่วงของระยะทาง จะมีเรือชาวบ้านออกมาจับหอย จับปลา เก็บผักบ้าง ตามประสาคนท้องถิ่น
ล่องไปในธารา….
จนมาถึงสุดทาง พบกับมหกรรมเรือแม่ค้า
จากที่อ่านรีวิวมาบางคนบอกว่าถ้าของไม่แพงมากก็ช่วยซื้อไปก็ได้ เค้าจะได้ไม่ตื๊ออีก บางคนก็บอกว่าถ้าเราไม่อยากซื้อจริงๆ ให้บอกคนพายเรือว่าเราไม่ซื้อของให้ช่วยออกเรือ เดี๋ยวให้ทิป
พอถึงคิวที่เราจะโดนเองบ้าง เราเลือกใช้วิธีไม่ซื้อของแล้วบอกคนพายให้ออกเรือแล้วเดี๋ยวจะให้ทิป แต่คนพายเรือของเราเค้าไม่ออกเรือ ปล่อยเวลาให้เราโดนตื๊ออยู่นาน ของที่มาขายเราเป็นพวกน้ำอัดลม น้ำหวานทั่วไป แต่เราว่าเค้าขายเราแพงไป เราเลยไม่ซื้อ
โดนตื๊อมากๆ จากที่พูด No ปฏิเสธการขาย พูดไปหลาย No ก็ยังไม่ออกเรือ สักพักเราเลยยอมเสียมารยาท เงียบไม่ตอบโต้กับคนขาย ไม่มองหน้า นั่งเฉยๆ จนคนพายเริ่มรู้อาการเรา จึงได้ฤกษ์พายออกไปสักที
พายออกมาจากกลุ่มแม่ค้าได้แป๊บนึง เรือของเราก็เริ่มจอดและก็เปิดการขายสินค้าของเรือตัวเองบ้าง คราวนี้ไม่ซื้อ เค้าคงไม่พายกลับแน่ๆ และเราก็เริ่มเซ็งบ้างแล้วล่ะ จากความรู้สึกประทับใจมาตลอดทาง มาหมดอารมณ์ตรงที่โดนตื๊อให้เสียตังค์ โดยที่เราไม่อยากได้นี่แหละ
คุณป้าหยิบของขึ้นมาขาย เป็นพวกกระเป๋าผ้าหลายขนาด เราเลยคิดซะว่าเป็นการซื้อของฝากไปในตัว อุดหนุนกระเป๋าใบเล็กไปสองใบ ขอลดราคาก็ไม่ลดให้ ใจร้ายอะ 555
ไหนๆ ก็เสียตังค์ เสียอารมณ์ไปแล้ว เราต้องกู้สถานการณ์ความสนุกของเรากลับคืนมาให้ได้ เราจึงขอลองเป็นฝีพาย ใช้เท้าลองพายเรือบ้าง ทางคุณลุง คุณป้าก็ยินดี เอาเลย…..เต็มที่ 5555
ใช้เท้าไม่หนำใจ เอ้า!!! พายเรือเล่นด้วย วนๆ อยู่อย่างนั้นแหละ เราเล่นจนเราเบื่อ (ลุงป้าก็เบื่อ) แล้วเราก็เลิก 555
เล่นซนจนหนำใจเราแล้ว ออกเรือกันต่อ เรือลำอื่นๆ เริ่มหายไปหมดละ ทางกลับเริ่มเงียบ วิเวกวังเวงแหวว
มีกลุ่มเรือชุดใหม่พายสวนมาแล้ว ขากลับ คุณป้า คุณลุงเริ่มพายซิ่ง
กลับมาสู่ภาวะ สงบเงียบ ชมความงามของสองฟากฝั่งอีกครั้ง
เรือแต่ละลำมีป้ายทะเบียนด้วยนะ
ลอดถ้ำนี้ไป ก็ใกล้ถึงแล้วจ้า
ชมความงามสองฝั่งอยู่ดีๆ เรือของเราก็ไปจอดแวะในพงกอหญ้า……เรางงมาก จอดทำไมหว่า
พอจอดแล้ว คุณป้าก็เดินลงเรือและเดินหายไปในกอหญ้า เราสันนิษฐานว่า ป้าลงไปฉี่รึเปล่า ถ้าป้าลงไปฉี่จริงๆ เราก็ไม่ควรหันไปมองสินะ จึงได้แต่หันกลับมาแล้วนั่งรอไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณป้าจะกลับมาที่เรือ
ระหว่างรอ เรือหลายลำแล่นผ่านไป ผ่านไป แต่ละลำมองมาด้วยความสงสัยว่าเราจอดกันทำไม
แดดก็ร๊อนนนน ร้อน แต่ก็นั่งรอไขปริศนาคุณป้าหายไปไหนต่อไปเรื่อยๆ สนนเวลาประมาณเกือบ 10 นาที คุณป้าก็กลับมา พร้อมกับผัก 1 กำในมือ สรุปคือ คุณป้าลงไปเก็บผักมานั่นเอง
ส่วนคุณลุงคนนี้ก็คงมาเก็บผักเหมือนกันสินะ ^_^
เริ่มเข้าสู่เส้นทางกลับบ้านของเราแล้ว ลอดสะพานนี้ไปก็เข้าเขตชุมชนแล้วล่ะ
เธอถ่ายรูปฉัน….ฉันถ่ายรูปเธอ ^_^
เริ่มเข้าสู่ชุมชน คนท้องถิ่นเริ่มออกมาทำกิจกรรมยามเย็น
ดูเค้าช้อนสาหร่ายกัน
บางบ้านเอาเปลือกส้มโอมาแขวนไว้ที่รั้วด้วย เราคิดไปเองว่า เค้าเอามาวางไว้เพื่อกันพวกสัตว์เลื้อยคลานรึเปล่า
พอใกล้ถึงปลายทาง คุณลุงคุณป้าเริ่มถามถึงทิป เราก็เลยต้องจัดแจงให้ไปในราคาเผื่อสำหรับสองคน จากนั้นเรือของเราก็มาจอดส่งคุณลุงขึ้นฝั่งก่อนถึงปลายทางที่บ้านเล็กๆ นี้
สาหร่ายในน้ำ เยอะแยะมากมาย เราเอากล้องกันน้ำหย่อนลงไป ภาพที่ได้มามีแต่สาหร่ายเต็มไปหมดทุกอณู
ที่ท่าน้ำมีป้ามาซักผ้า และมีคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้งไปพร้อมๆกัน ได้บรรยากาศไปอีกแบบ
ต้นไม้ห้อยกิ่งก้าน สลวยสวยเก๋ลงมาเป็นแบคกราวน์ โดยมีคุณป้าฝีพายเป็นนางแบบ 555
ถึงฝั่งแล้วโดยสวัสดิภาพ และเราก็มาถึงเป็นลำเกือบสุดท้าย ทั้งๆที่ออกจากฝั่งเป็นลำต้นๆ ด้วยเรือของเรามีเรื่องราวมากมายระหว่างทางที่ต้องพบเจอ กลับมาถึงฝั่งเมาท์ให้เดอะแก๊งค์อีกลำฟังได้ไม่หยุด เดอะแก๊งที่ไปเรืออีกลำเล่าว่า เธอไม่โดนบังคับให้ซื้อของอะไรเลย และคนพายก็ไม่ขายของระหว่างทางด้วย และทิปก็ถูก คือไม่เจออะไรที่ลำบากใจเท่าไร สบายๆ ส่วนเรือลำของเรานี่ ครบรส โดนหมดทุกอย่าง….แต่โดยรวมก็สนุกดีนะ
กลับมาถึงโรงแรม เนื่องจากคืนนี้เป็นคืนที่เราจะพักที่ Meracus Hotel นี้เป็นคืนสุดท้าย เปิดห้องเข้ามาเจอกับโปสการ์ดที่ทางโรงแรมเขียนมาให้ พร้อมกับขนมท้องถิ่นของเวียดนาม เอามาให้เป็นที่ระลึกคนละกล่อง
ขนมนี้มีชื่อว่า Banh Com เราไม่แน่ใจว่าออกเสียงเป็นไทยได้ว่าอย่างไร แต่เราแกะออกมาลองชิมแล้ว เนื้อขนมจะเหนียวๆ คล้ายกะละแมร์ มีสีเขียว รสหวาน
เก็บของที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว เรามาทานมื้อค่ำกันที่ร้าน New Day Resturant
อาหารที่ร้าน New Day Resturant นี้ เป็นแบบคล้ายๆ ข้าวแกง เลือกกับข้าวเป็นจานๆ มากินกับข้าว อาหารที่นี่รสชาติอร่อย ถูกปากพวกเราอย่างมากมาย ตั้งแต่มาฮานอยก็เพิ่งมาเจอร้านนี้ กับโรงแรมที่เราพักนี่แหละ ที่เราว่าทำอาหารอร่อย
มาถึงฮานอยทั้งที ลองสั่งเบียร์ฮานอยมาลองสักหน่อย
อิ่มหนำสำราญกับอาหารอร่อยแล้ว แวะมาละลายทรัพย์กันต่อที่ Dongxuan Walking Street ที่นี่บางคนก็เรียกว่า Hanoi Night Market นะ เราเลยไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วเรียกได้ทั้งสองอย่างรึเปล่า
สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า ขายแบบเหมาๆ เยอะๆ ก็มีนะ
ร้านนี้คนมุงเต็มเลย
นอกจากเสื้อผ้าแล้ว สินค้าจำพวกเครื่องประดับ กระเป๋า และอื่นๆ ก็มีขายนะ
พวกของเล่น โมเดล ฟิกเกอร์ต่างๆ ก็มีขาย
ชุดเดรสออกงานของสาวน้อย ก็มีนะ จะว่าไปหากใครหาที่ซื้อของฝาก เราว่ามาเดินหาที่ Dongxuan Walking Street นี้ก็ดีนะ ของเยอะดี
มีรับวาดภาพเหมือนด้วย
สรุปมาเดิน Dongxuan Walking Street เราเสียทรัพย์ให้กับเสื้อยืดสองตัว สนนราคาตัวละ 80 บาท
ออกจาก Dongxuan Walking Street เดินกลับโรงแรม
ฮานอยยามค่ำคืน ก็ยังขวักไขว่ไปด้วยผู้คน และมอเตอร์ไซค์
เดินกลับมาย่านที่พักของเรา บรรยากาศยามค่ำคืนรอบๆ โรงแรมเต็มไปด้วยร้านขายรองเท้ามากมาย
แทบทุกร้านเป็นร้านขายรองเท้าเกือบหมด ใครมีโปรแกรมช้อปปิ้งรองเท้า ขอแนะนำย่านนี้เลย ตรงข้ามโรงแรม Meracus Hotel แถวๆ ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม มีให้เลือกมากมายละลานตา
ส่วนต้นไม้ต้นนี้ ออกลูกเป็นกระเป๋า….เค้าก็ช่างเอาไปแขวนเนอะ 555
จบทริปเที่ยวเวียดนามเหนือไปอีกวัน สนุกสนานครบทุกรสชาติดี ได้ชมวิวธรรมชาติ บรรยากาศสวยๆ ได้ความลำบากใจในการต่อรองบ้าง ถูกบังคับบ้าง นั่งรอป้าไปเก็บผัก ได้ลองพายเรือ ได้กินอาหารที่อร่อยและไม่อร่อย ถือว่าเป็นอีกวันที่เราสนุกมากๆ สำหรับเรา พรุ่งนี้เตรียมบินลัดฟ้าไปเที่ยวดาลัดกัน สำหรับวันนี้บ๊ายบายไปก่อน ……..บ๊าย บายยย ฮานอย
ดูบันทึกการท่องเที่ยวเวียดนามย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่ 1 วางแผนเที่ยว
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่2 เที่ยวฮานอย
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่3 ฮาลองเบย์ ถ้ำเทียนกุง หมู่บ้านชาวประมง Vung Vieng Fishing Village
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่4 ฮาลองบก (นิงห์บิงห์) ฮวาลือ ตามก๊อก Hoa Lu Tam Coc
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่6 พระราชวังฤดูร้อนจักรพรรดิเบ๋าได๋ วัดตั๊กลัม ทะเลสาบ Tuyen Lam น้ำตกดาตันลา
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่7 เที่ยวมุยเน่ แฟรี่สตรีม หมู่บ้านชาวประมง ทะเลทรายขาว ทะเลทรายแดง
เที่ยวเวียดนาม ตอนที่8 เที่ยวโฮจิมินห์
เที่ยวเวียดนามเหนือ เวียดนามใต้ by DeeryArch.me