เช้านี้ออกจากที่พักแต่เช้า เรามีแพลนไปเที่ยวต่างจังหวัดกันอีกแล้ว เราจะไป กิน นอน แบบเกาหลีกันที่ อันดง จากที่พักแถวๆโคเอ็กซ์ พวกเราตรงไปที่ ดงโซลบัสเทอร์มินอล (Dong Seoul Bus Terminal 동서울터미널 โดยนั่ง Subway สาย2 ไปลงที่ Gangbyeon Station ทางออก 4)
จากนั้นซื้อตั๋วไปลงอันดง (Andong Intercity Bus Terminal) ค่าตั๋ว ₩15,700 ใช้เวลาเดินทางจากโซลไปถึงอันดงประมาณ 3 ชั่วโมง
อันดง Andong 안동시
เวลาประมาณ 11.00น. เราก็มาถึงอันดงกัน
Andong Intercity Bus Terminal
ภายในสถานีอันดง กว้างขวาง สะอาดดี หลังจากลงรถแล้ว ก่อนหน้าที่เราจะมาอันดงนั้น ได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า หากมาอันดงแล้วต้องได้ลิ้มลอง ไก่ผัดวุ้นเส้น หรือ อันดง จิมทัก (jjimdak 찜닭) ซึ่งเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของอันดงให้ได้ โดยมีคนแนะนำว่ามีตรอกที่ขายไก่ผัดวุ้นเส้นนี้ อยู่แถวๆ บัสเทอมินอลด้วยชื่อว่า ตรอกจิมทัก
พวกเราเดินหาตรอกจิมทักนี้ทั่วทุกสารทิศของบัสเทอมินอล ข้ามถนนไปๆมาๆ อยู่หลายครั้งก็ไม่เห็นมี หิวมากๆแล้วด้วย อีกไม่กี่นาทีก็จะเที่ยงแล้ว เราจึงตัดสินใจเดินเข้าไปกินข้าวในบัสเทอมินอลแทน ในใจแต่ละคนเศร้าและผิดหวังมากมาย T T (เรื่องกินเรื่องใหญ่ เรื่องตายเรื่องเล็ก จริงๆ)
อันดง
หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว เวลาเกือบบ่ายโมง เราเดินมาทางข้างหลังบัสเทอมินอล ข้ามถนนไปหนึ่งที เพื่อไปรอรถเมล์สาย 46 ไปยังหมู่บ้านฮาฮเว พอพวกเราข้ามถนนไปแล้วเรายืนรอตรงป้ายฝั่งเดียวกับบัสเทอมินอล แต่รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ ไม่เห็นมาสักที หันซ้ายขวา ไม่มีใครให้ถามเลยแฮะ พอดีมีรถเมล์สายอื่นมา เราโบก พอเค้าจอดเราเลยถามว่า ฮาฮเว?!? พขร.แสนดีคนนั้นก็ตอบว่า No! แล้วก็ทำมือชี้เป็นเส้นโค้งโปรเจกไตล์ บอกให้เราข้ามไปรอฝั่งโน้นแทน…….รอผิดฝั่งนี่เอง 555 😀
Andong
ที่ถูกต้องคือ ต้องข้ามถนนมารอรถเมล์สาย 46 ที่ป้ายหน้า 7-11 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามบัสเทอมินอล นะคะทุกคลลล 😀
Andong
ตารางเวลารถเมล์สาย 46 มีติดไว้ที่ป้ายรถเมล์
รอนานเหมือนกันนะ รอแล้วรอเล่า นั่งตากแดดที่ป้ายรถเมล์รอไป พวกเราคงได้รถรอบ 14.05น. แน่ๆ พอรถรอบ 14.05น. มาจอด โอ้วว…พระพุทธเจ้าาาา ขึ้นไม่ได้คร่าาา คนเยอะไปมั้ย!!! รอรอบต่อไปละกัน
รอบต่อไปคือ 14.40 น. พอรถมาเราได้ขึ้นแล้ว คนเยอะอีกตามเคย เราต้องยืนแบบนี้ไปอีก 1 ชั่วโมง ถึงหมู่บ้านฮาฮเว ในรถไม่มีชาวต่างชาติคนอื่นๆเลย ยกเว้นพวกเราสี่คน
พอถึงหน้าพิพิธภัณฑ์หน้ากากอันดงแล้ว บัสจอดสนิท……ไม่น่าเชื่อ!! คนที่อัดแน่นมาในรถเมล์ทุกคนมาเที่ยวที่เดียวกันหมดเลย ไม่มีลงกลางทางสักคน มีแต่จอดรับกลางทางเพิ่มอีก พอเห็นคนเดินลงจากรถมา คนเยอะขึ้นในทันที แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เริ่มเที่ยวที่แรก พิพิธภัณฑ์หน้ากากอันดง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมหน้ากากไว้มากมายกว่า 300 ชนิด ทั้งของเกาหลีเองและจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งเอเชีย แอฟริกา ยุโรป
หน้ากากอันดง ของเกาหลี หน้ากากแต่ละใบหน้า แสดงถึงตัวละคร และอาชีพที่ต่างกัน เราซื้ออันเล็กๆ มาเป็นของที่ระลึกอันนึง เห็นว่าหน้าตายิ้มแย้มดี นึกว่าจะเป็นตัวตลก จริงแล้วเป็นบุชเชอร์ พ่อค้าเนื้อ
หน้ากากของประเทศอินโดนีเซีย
มีหัวโขนของไทยด้วยนะ ความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่าขอ
หน้ากากของประเทศอินเดีย
หน้ากากของประเทศศรีลังกา
หน้ากากทางฝั่งยุโรป
หน้ากากปิดหน้าศพ
อันนี้เป็นหน้ากากของชนเผ่า เผ่าหนึ่ง จำชื่อเผ่าไม่ได้ 😀
ออกจากพิพิธภัณฑ์หน้ากากอันดงแล้ว มาขึ้นรถเมล์ตรงข้างๆ พิพิธภัณฑ์ เพื่อเข้าไปสู่หมู่บ้านมรดกโลกฮาฮเว
นั่งรถเมล์เข้ามาสักแป๊บนึง รถเมล์ก็มาจอดหน้าทางเข้าหมู่บ้านฮาฮเว ที่ตรงนี้จะมี Information สามารถสอบถามข้อมูล ขอแผนที่ได้ที่ตรงนี้
อ้อ!! เกือบลืมไป สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกฮาฮเวแห่งนี้ ขอแนะนำให้ซื้ออาหารและน้ำดื่มพกเข้ามาด้วยจะดีมาก เพราะที่นี่ไม่มีร้านค้าหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตใดๆเลย มีบางบ้านเปิดตัวเป็นร้านอาหารบ้าง แต่พอเอาเข้าจริงอาจไม่เปิดก็ได้ เราค้างคืนที่นี่หนึ่งคืน เรื่องอาหารเย็นเราไม่มีปัญหา เพราะเราอีเมล์มาบอกให้เจ้าของบ้านทำเผื่อไว้ให้ด้วย แต่ที่เป็นปัญหาหลังจากอาหารมื้อเย็นแล้ว เราไม่มีน้ำดื่มไว้ดื่มในตอนกลางคืน โชคดีที่มีเป็ปซี่จากเมื่อกลางวันเหลืออยู่ครึ่งขวด คืนนี้เลยดื่มเป็ปซี่แทนน้ำเปล่าไปก่อน
ตารางรถเมล์เข้าตัวเมืองอันดง จากจุดจอดรถเมล์ภายในหมู่บ้าน
หมู่บ้านฮาฮเว (Hahoe Folk Village) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ บ้านแต่ละหลังส่วนใหญ่สร้างจากดิน หลังคามุงด้วยฟาง ตามแบบโบราณซึ่งได้มีการอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน มีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง บางบ้านเปิดให้เป็นเกสต์เฮ้าส์ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย ภายในหมู่บ้านจะมีป้ายปูนสีเขียวๆ เป็นป้ายบอกทาง หากต้องการไปไหนให้สังเกตได้จากป้ายนี้
หมู่บ้านฮาฮเว ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกในปี 2010 ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอีกด้วย
อันดับแรก เราต้องตามหาที่พักของเราในคืนนี้ก่อน เราจองที่พักแบบบ้านเกาหลีเอาไว้ ชื่อว่า กาอนดัง Gaondang 가온당
เดินหาที่พักไปเรื่อยๆ ด้วยความไม่แน่ใจ แต่ก็ถือว่าเป้นการเดินเล่นชมหมู่บ้านในยามเย็นไปในตัว
เดินหาที่พักมาเรื่อยๆ ก็มาเจอวิวนี้ สะดุดมาก สวยจัง เดินขึ้นเดินลงถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ๆ ที่แท้ ที่พักเราก็อยู่ทางซ้ายมือนี่เอง
ทางเข้ามีป้ายเหลืองๆ ตามที่เห็นจากข้างหลัง
ทางเข้าที่พัก กาอนดัง Gaondang 가온당
เข้ามาในบ้านแล้ว เราโชคดีมาก มาเป็นกลุ่มแรก ได้เลือกห้องก่อนตามใจชอบเลย (อันที่จริงเค้าจองห้องไว้ให้พวกเราแล้ว แต่เค้าพาเดินดูเผื่อเราเปลี่ยนใจ)
สุดท้าย ก็เลือกห้องที่เค้าจองไว้ให้เรานั่นแหละ กว้างที่สุดแล้ว เหมาะกับคนหมู่มากอย่างพวกเราสี่คน ประตูทางเข้าห้องเล็กมากๆ คนที่สูงสุดในกลุ่มแทบจะทำท่าพุ่งหลาวเข้าไป เหตุผลที่เค้าทำประตูเล็กๆ คงเพราะช่องเล็กๆ น่าจะทำให้ลมหนาวเข้ามาได้น้อยลง
ห้องนอนของพวกราคืนนี้ เป็นห้องพื้นอุ่น สะอาดดี มีระเบียงแบบเกาหลีด้วย ราคา 100,000 วอน/คืน หารสี่แล้วต้องจ่ายคนละ 25,000 วอน ส่วนเรื่องอาหารมื้อเย็น เดี๋ยวเจ้าของบ้านจะพาพวกเราเดินไปกินข้าวที่บ้านแม่ของเค้า (ไม่ฟรีนะ) ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบห้องน้ำรวม แต่แยกชายหญิง แต่เราก็เข้าห้องน้ำชายทุกที เพราะห้องน้ำหญิงเต็มตลอดเลย
นี่ไงหน้าตาระเบียงห้องเรา เปิดประตูข้างๆห้องออกมา ก็เจอเลย
ออกมาชมสวนผักหลังบ้านบ้าง ดินแห้งสนิท คงปลูกอะไรไม่ค่อยได้ แห้ง เฉา ไปหมด
หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็มาเดินเล่นรอบๆหมู่บ้าน ชมบรรยากาศยามเย็นของหมู่บ้านฮาฮเวกัน
ชาวบ้านที่นี่ บางรายยังประกอบอาชีพ ทำไร ทำนา กันอยู่เหมือนสมัยเมี่อครั้งอดีต เพียงแต่ยุคนี้มีเครื่องทุ่นแรง มีวิทยาการต่อสู้กับอากาศหนาวเพิ่มขึ้นมา
ลานสันทนาการของหมู่บ้าน มีเครื่องเล่นต่างๆ ทั้งชิงช้าและไม้กระดก
เริ่มมืดค่ำลงแล้ว อากาศหนาวเย็นจับใจไปเลย
ฟ้ามืดแล้ว บางจุดในหมู่บ้านจะไม่มีไฟ และได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เดินกลับที่พักดีกว่า
จากนั้นเจ้าของบ้านก้พาพวกเรามากินอาหารเย็นกันที่บ้านแม่ของเค้า
พอแม่เจ้าของบ้านเอาอาหารมาเสิร์ฟ พวกเราถึงกับดีใจร้อง เฮ้ย!!! นี่ไง อันดงจิมทัก ไก่ผัดวุ้นเส้น ที่เดินตามหาเกือบชั่วโมงเมื่อเช้านี้ ได้กินแล้วเว้ยยยยย นึกว่าจะไม่ได้ชิมอาหารขึ้นชื่อของอันดงซะแล้วววววว
บรรดาเหล่าเครื่องเคียง
ของทอดวาไรตี้
อาหารมื้อนี้ อร่อยมากจริงๆ วุ้นเส้นเค้าเส้นใหญ่ กินอร่อยมาก โดยรวมแล้วถือว่าอร่อยมากๆ ชาตินี้จะได้กลับไปกินอีกมั้ยเนี่ย อิ่ม อร่อย ถูกใจ สุดๆไปเลยมื้อนี้
ก่อนกลับที่พักเราก็ไปจ่ายเงินให้กับแม่เจ้าของบ้าน สำหรับอาหารมื้อนี้ราคาอยู่ที่ 29,000 วอน เป็นราคาไทย ก็จ่ายไปคนละ 200 กว่าบาท ก็ถือว่าไม่แพงมาก เรทนักท่องเที่ยว แต่มันพิเศษตรงที่ ไปหากินที่อื่นแทบไม่ได้แล้ว นอกจากที่อันดงนี้ แถมยังอร่อยมากๆอีก ก่อนกลับไปพวกเราก็เลยต้องชมเชยฝีมือการทำอาหารของแม่เจ้าของบ้านเค้าซะหน่อย พวกเราชอบมาก ยกนิ้วโป้งให้พร้อมกับพูดว่า มานี่ มานี่ มาชิตะ (อร่อยมากๆ) แม่เค้าก็ยิ้มดีใจ คัมซาฮัมนีดา (ขอบคุณ) กันยกใหญ่
หลังจากกินมื้อเย็นแล้ว เราก็กลับมาพักผ่อน เตรียมตัวนอนกัน
เช้านี้ที่อันดง…..วันนี้นอนตื่นสายไปนิดนึง พอดีเมื่อคืนนอนสบายมากๆเลย พวกเรารีบตื่น รีบเช็คเอาท์ แล้วออกมาชมบรรยากาศหมู่บ้านฮาฮเวยามเช้ากัน
เช็คเอาท์แล้วเรียบร้อย
ปิดสำนัก !!
ร้านขายของที่ระลึกในหมู่บ้าน
มาชมท้องไร่ ท้องนาเกาหลีกันบ้าง
ทิวทัศน์แม่น้ำนักดงกัง อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านฮาฮเว
ได้เวลากลับแล้ว บ๊ายบายอันดง
พวกเราขึ้นรถเมล์รอบ 09.50น. ในหมู่บ้านฮาฮเวนี้ กลับไปที่ Andong Intercity Bus Terminal ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นก็ซื้อตั๋วกลับโซล
รสบัสระหว่างเมืองของเกาหลี กว้างขวาง อย่างสบาย เบาะกว้างมาก ปรับเอนนอน ยืดขาได้สบายๆ แสนสบายยิ่งกว่านั่งเครื่องบินซะอีก
ระหว่างทางกลับก็นั่งดูรายการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งของเกาหลีมาตลอดทาง ประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงดงโซลแล้ว
เรากลับมาถึงโซลประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง เอาของกลับไปเก็บที่พัก พักผ่อนนิดหน่อย ประมาณ 4 โมงครึ่งเย็นๆ เราก็มาเที่ยวสวนสนุกลอตเต้เวิลด์กันต่อ
ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว เราจึงออกมาชมสวนสนุกบริเวณข้างนอกก่อน เพราะสวนสนุกบริเวณข้างนอกหรือที่เรียกว่า Magic Land จะปิดเร็วกว่าข้างในร่ม
บรรยากาศเครื่องเล่นข้างนอก
บรรยากาศสวนสนุกด้านใน คนเยอะมากๆเลย เราได้เล่นเครื่องเล่นไปแค่ 3-4 อย่าง แต่ถือเป็นวันที่สนุกอีกวันนึง พรุ่งนี้เราจะออกต่างจังหวัดกันอีกแล้ว วันนี้กลับไปพักผ่อนเตรียมร่างกายไปเล่นสกีพรุ่งนี้ดีกว่า เย่ๆ