Journey to the Iceland Ep.1 กว่าจะไปถึงไอซ์แลนด์

แสงเหนือ หรือ Aurora Borealis เป็นอีกหนึ่งความใฝ่ฝันของใครหลายๆคน ที่อยากจะได้ไปเห็นสักครั้งในชีวิต เราก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อยากจะไปตามล่าหาแสงเหนือ ประกอบกับมีความอยากไปเที่ยวไอซ์แลนด์มากๆ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และโอกาสก็มีมาหาเมื่อพบว่าสายการบิน Norwegian Airlines มีราคาโปรกรุงเทพ-ออสโล 12,000 บาท!!! เราก็เห็นแก่ของถูกทันที และตามไปดูตั๋ว ออสโล-เรคยาวิก ด้วย พอรวมราคากันแล้วได้ราคาดีน่ารักมาก หาพรรคพวกได้แล้วก็ตัดสินใจเริ่มทริปแสงเหนือกันเลยในบัดนั้น

ด้วยประเด็นหลักของทริปนี้คือ อยากเห็นแสงเหนือ และ อยากเข้าถ้ำน้ำแข็ง พวกเราจึงตกลงเลือกที่จะไปเที่ยวไอซ์แลนด์ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งเป็นฤดูหนาว เพราะมีกลางคืนที่ยาวนานและมีกลาเซียร์เป็นน้ำแข็งอยู่ ทำให้สามารถเข้าไปเที่ยวถ้ำน้ำแข็งได้

การเดินทาง

เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินจากไทยบินตรงไปถึงไอซ์แลนด์ เราจึงต้องหาตั๋วเครื่องบินในเส้นทางที่เป็นไปได้ ในความเป็นจริงแล้วไอซ์แลนด์เป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก หากมีตั๋วกรุงเทพฯ-เดนมาร์กราคาดีก็สามารถไปต่อเครื่องที่เดนมาร์กได้

แต่กรณีของเราเลือกบินในเส้นทาง กรุงเทพ-ออสโล / ออสโล-ไอซ์แลนด์ เหตุผลไม่มีอะไรมาก คือตั๋วถูก! ความงกล้วนๆไม่มีอย่างอื่นเจอปน ฮ่าๆๆ

แต่ก็มีเรื่องให้ต้องแก้ไขปัญหาตั้งแต่ต้นทริป เนื่องจากไฟลท์ กรุงเทพ-ออสโล ดีเลย์ ทำให้เราไปต่อไฟลท์ ออสโล-เรคยาวิกไม่ทัน พวกเราคิดว่ายังไงก็เดินทางไปให้ถึงออสโลก่อน แล้วค่อยคิดหาไฟลท์ต่อไปไอซ์แลนด์อีกที

เมื่อถึงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย พวกเราพยายามหาตั๋วเครื่องบินเพื่อไปไอซ์แลนด์ต่อ

แต่ยังไฟลท์เร็วที่สุดคือพรุ่งนี้ตอนเช้า พวกเราเลยต้องมีประสบการณ์นอนพื้นสนามบินกันเป็นครั้งแรก

ช่วงค่ำๆ มีเพื่อนร่วมชะตากรรม นอนพื้นสนามบินเพิ่มขึ้น 😀

เช้าวันใหม่ได้เวลาเดินทางอีกครั้ง เริ่มต้นการเดินทางกับสายการบิน Scandinavian Airlines (SAS) เส้นทาง ออสโล-โคเปนเฮเกน

ระหว่างรอไฟลท์ต่อไปไอซ์แลนด์ ยังเหลือเวลาอีกมาก เราจึงเดินออกมาสูดอากาศ ชมแสงแดดยามเช้าของสนามบินโคเปนเฮเกนสักหน่อย

อากาศหนาวเย็นมาก แม้จะมีหิมะปกคลุมแต่พันธุ์ไม้ ดอกไม้บางชนิดก็ยังสีสวยท้าความหนาวได้อยู่เลย

สูดอากาศได้แป๊บเดียวเพราะหนาวมาก เข้ามาหามื้อเช้าทานกันที่ร้านสะดวกซื้อในสนามบินนี่ล่ะ

จบของคาว…เรามาต่อด้วยของหวาน

แมกนั่มรสแชมเปญ รสนี้เราไม่เคยเห็นมาก่อน ได้โอกาสก็ซื้อมาลองซะเลย

ช่วงสายๆ ออกเดินทางอีกครั้งไปกับสายการบิน Wow Air สายการบินสุดแสนใจดี พวกเราไปถึงเกทเป็นสามคนสุดท้าย เมื่อเราวิ่งไปถึงเกท เจ้าหน้าที่ที่รับเช็คอินเห็นเราวิ่งกันมาก็โบกมือยิ้มให้ เหมือนดีใจกันทั้งสองฝ่าย…สุดท้ายก็ขึ้นเครื่องทัน…..เฮ้อออ 😀

ว๊าวๆ ภาคพื้นไอซ์แลนด์ และแล้วก็มาถึงซะที Iceland, Land of Fire and Ice.

การขอวีซ่า

อันที่จริงแล้ว ประเทศไอซ์แลนด์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของเขต เชงเก้น ( Schengen Agreement) คือประเทศในทวีปยุโรปส่วนใหญ่ใช้ข้อตกลงเดียวกันในเรื่องของวีซ่า ซึ่งเมื่อเป็นข้อตกลงเดียวกัน ก็มีกฎอยู่ว่า เราต้องขอวีซ่าของประเทศที่เราท่องเที่ยวหรือพำนักอยู่นานที่สุด แต่ถ้าเราไปเที่ยวสองประเทศและพำนักอยู่ในเวลาเท่าๆกัน ให้เรายื่นขอวีซ่ากับประเทศที่เราเดินทางไปถึงเป็นประเทศแรก

แต่สำหรับประเทศไอซ์แลนด์ไม่มีสถานฑูตในประเทศไทย ฉะนั้นเราจึงต้องไปยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวไอซ์แลนด์กันที่ VFS ของประเทศเดนมาร์กจ้าาา…

สำหรับเอกสารที่ต้องเตรียมไปยื่นขอวีซ่า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ตาม URL นี้เลย
>> เอกสารขอวีซ่าท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ <<
>> Checklist แบบฟอร์มตรวจสอบเอกสาร <<
>> นัดหมายเวลาเพื่อยื่นเอกสารขอวีซ่า << ***จำเป็นต้องทำการนัดหมายล่วงหน้า***
>> กรอกแบบฟอร์มขอวีซ่า <<

และอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย อย่าลืม!! ซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมการขอวีซ่าด้วยนะจ๊ะ 🙂

ที่พัก

ในการขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศไอซ์แลนด์ควรเขียนที่พักลงรายละเอียดไว้ในแต่ละวันให้ชัดเจน ว่าวันนี้พักที่ไหน สำหรับผู้ที่เน้นขับรถบ้านท่องเที่ยวรอบเกาะเน้นนอนในรถมากกว่าแบบเรา หากไม่ได้จองที่พักแบบโรงแรมหรือเกสต์เฮาส์ ให้เขียนชื่อ-ที่อยู่ แคมป์ไซต์ที่สามารถจอดรถนอนได้ลงไปแทน *** สำคัญว่าจะต้องมีที่พักทุกวัน***

แต่จากประสบการณ์แล้วแม้จะขับรถบ้านหรือ Camper Van ก็ควรมีที่พักจริงจังในแต่ละวัน หรืออย่างมากก็ 2 วันพักที่พักดีๆสักครั้ง เพราะการนอนในรถในฤดูหนาวที่ไอซ์แลนด์ มันหนาวมากๆ โดยเฉพาะคนที่นอนบนชั้นสองของรถ เรียกได้ว่าหนาวมากจนอยู่ไม่ได้ ต้องลงมานอนเบียดกันข้างล่าง และถึงแม้จะมีฮีทเตอร์ในรถก็ยังไม่ทั่วถึง จนพวกเราต้องวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดด้วยการเอาถุงนอนมาต่อกัน และเอาถุงนอนนั้นห่มคลุมฮีทเตอร์ไปด้วย เพื่อให้ความร้อนยังวนเวียนอยู่ในถุงนอนเวลาที่เรานอนก็จะอุ่นสบายคลายหนาว

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างสำหรับคนที่นอนในรถบ้าน คือสถานที่จอดรถนอน ควรจอดในที่ปลอดภัย เรื่องโจรไม่มีอะไร ไว้ใจได้ แต่ควรจอดในที่ๆ ไม่มีทางลาดชัน และไม่ควรจอดบนพื้นที่เป็นน้ำแข็ง เพราะเมื่อเวลาจอดไปนานๆ ความร้อนจากฮีทเตอร์จะทำให้น้ำแข็งด้านล่างละลายและอาจทำให้รถไหล ซึ่งพวกเราก็เจอกับกรณีนี้มาแล้ว อยู่ดีๆ รถไหล ตกใจวิ่งออกจากรถกันหมดทุกคน 555 และ….ไม่ควรจอดรถนอนในที่มีป้ายห้ามจอดด้วยจ้ะ (No Camper Van อะไรงี้)

แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจ ชอบเที่ยวไม่มีแผน อยากล่าแสงเหนือแบบค่ำไหนนอนนั่น ไม่อยากเสียเงิน ก็ให้เลือกจองแบบ Free cancellation ก็ได้เหมือนกัน

ครบเครื่องเรื่องเอกสารไปแล้วก็ไปยื่นคำร้องขอวีซ่าได้ที่นี่เลยจ้าาา…

ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าเดนมาร์ก
เลขที่ 10/104-106 (801-803)
ชั้น 8 อาคารเทรนดี้
สุขุมวิท ซอย 13 คลองเตยเหนือ
วัฒนา กรุงเทพฯ 10110

เวลาให้บริการยื่นใบคำร้องขอวีซ่า: 8.00 น. – 12.00 น. และ 13.00 น. – 15.00 น. (จันทร์-ศุกร์) ยกเว้นวันหยุด
เวลารับหนังสือเดินทาง : 13.00 น. – 16.00 น. (จันทร์-ศุกร์) ยกเว้นวันหยุด

การเช่ารถ

รวมเว็บไซต์เช่ารถใน Iceland

www.campervaniceland.com
www.campervanrental.is
www.gocampers.is
www.happycampers.is
www.geysir.is
www.campericeland.is/en/
www.mcrent.eu
www.caravan.is

พาหนะพาเที่ยวในการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ของพวกเรานี้ พวกเราตัดสินใจเลือกจาก Go Campers ด้วยราคา ขนาดรถ และความเหมาะสมต่างๆ การรับรถนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ของ Go Campers ขับรถมารับพวกเราไปที่บริษัท และส่งมอบรถ พร้อมอธิบายถึงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถ

นอกจากการเช่ารถเพื่อเดินทางแล้ว การขับรถภายในประเทศไอซ์แลนด์ให้ปลอดภัยมีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวและต้องศึกษาค่อนข้างมาก คราวหน้าจะมาเล่าถึงแผนเที่ยว แผนการเดินทาง และข้อมูลที่จำเป็นในการท่องเที่ยวไอซ์แลนด์ให้ปลอดภัยกันในตอนหน้าจ้า