แวะอ่านตอนที่ 3 ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (3) เส้นทางกำแพงหิมะ Tateyama Kurobe Alpine Route
สวัสดีตอนเช้า (3 พฤษภาคม 2556) เก็บของ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเรียบร้อย เดินเอากระเป๋ามาฝากล็อคเกอร์ที่สถานี JR Matsumoto จากนั้น พวกเราไปหามื้อเช้ากินกันที่ชั้น 4 ของห้าง Midori ซึ่งเป็นห้างที่อยู่ติดกับสถานี โดยตกลงปลงใจฝากท้องกันที่ร้านราเมน เดินเข้ามาด้านในสุดของร้าน มองออกไปนอกกระจกวิวดีมาก มองเห็นทิวเขาเจแปนแอลป์ด้วย วันนี้ฟ้าสดใส เป็นใจจริงๆเลย ^_^
กินข้าวเรียบร้อย จุดหมายต่อไปของเราคือ เที่ยวปราสาทมัตสึโมโต ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติของญี่ปุ่นด้วย โดยเราจะใช้วิธีเดินไป (ระยะทางประมาณ 1,100 เมตร) เพื่อจะได้ชมบรรยากาศเมืองมัตสึโมโตไปในตัวด้วย จากแผนที่ด้านบนเริ่มต้นจากสถานี JR Matsumoto
– เดินออกมาทางหน้าสถานี ข้ามถนนและเดินตรงไปตามถนน Agatanomori Street
ระหว่างการเดินก็ไม่ลืมเก็บ RC ฝาท่อ Matsumoto ซึ่งเป็นรูปลูกบอลเตมาริ ของเล่นพื้นเมืองสำหรับลูกสาวซามูไร ทำจากด้ายสีสันต่างๆ พันกันเป็นลวดลาย ถือเป็นงานหัตถกรรม และเป็นของฝากอีกอย่างหนึ่งของเมืองมัตสึโมโตด้วย
– เดินมาอีกประมาณ 3 ไฟแดงจะเจอรูปปั้นหิน Statue of Embisu ให้เดินเลี้ยวซ้าย
– เดินตรงไปตามถนน Honmachi Street เรื่อยๆ
– เดินตรงไปจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำ (ก่อนข้ามสะพานหากเดินเลี้ยวซ้ายจะเจอกับ Matsumoto timepiece museum)
– หากไม่แวะเที่ยว Matsumoto timepiece museum ก็เดินข้ามสะพานไป
แม่น้ำกลางเมืองมัตสึโมโต ช่างใส ไร้มลพิษซะจริง
– เมื่อข้ามสะพานแล้ว ทางขวามือจะเป็นถนน Nawate Dori หรือถนนกบ เป็นถนนคนเดินซอยเล็กๆ ตกแต่งร้านด้วยบรรยากาศย้อนยุค ขายของที่ระลึก ขนม รวมถึงผักและผลไม้ สังเกตง่ายๆ ด้านหน้าทางเข้าจะมีรูปปั้นกบสู้กัน ตัวบนถือดาบ ตัวล่างตาเหลือกแลบลิ้นอยู่ (>,<)
บรรยากาศหน้าทางเข้า ถนนกบ Nawate Dori
– หากไม่แวะเที่ยวถนนกบ ให้เดินตรงไปเรื่อยๆ ตามถนน Daimyocho Street จนสุดถนนจะเจอแยก ให้ข้ามถนนไป ก็จะเจอกับปราสาทมัตสึโมโตแล้วจ้าาาา
วิธีดูเส้นทางง่ายๆ อีกวิธีนึงคือ เดินทางตามเส้นประสีแดง ซึ่งเป็นเส้นทางของรถเมล์สาย North Route นั่นเอง ซึ่งก็หมายความว่าหากใครอยากเก็บแรงไม่อยากเดิน ก็นั่งรถเมล์สาย North Route นี้ไปก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็ถึงปราสาทมัตสึโมโตแล้วจ้าาา
ระหว่างทางเดินบนถนน Daimyojo Street ก่อนถึงปราสาทมัตสึโมโต บริเวณทางฝั่งซ้ายมือมีร้านหนังสือที่เป็นตึกญี่ปุ่นโบราณตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างตึกทันสมัยทั้งสอง เป็นที่สะดุดตา ใครผ่านไปผ่านมาเป็นต้องแวะถ่ายรูปเกือบทุกคนไป
เดินผ่านร้านหนังสือ ตรงมาอีกแป๊บนึงก็ถึงทางเข้าบริเวณรอบปราสาทมัตสึโมโตแล้วจ้าาา ถึงแล้วเย่ๆ \\^0^// วันนี้ฟ้าใส แดดจัด ถ่ายรูปปราสาทมัตสึโมโตเห็นไปถึงแบคกราวน์เทือกเขาเจแปนแอลป์ด้วย โชคดีจังเลย ^_^
ปราสาทมัตสึโมโตะ ปราสาทไม้ที่คงความดั้งเดิมและเก่าแก่ อายุยาวนานเป็นอันดับสองของประเทศญี่ปุ่น เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า ปราสาทอีกา เนื่องจากผนังปราสาทมีสีดำ ปีกด้านต่างๆ ของปราสาทแผ่กางออกเหมือนปีกของนก เป็นปราสาทที่สร้างบนพื้นราบ ตัวปราสาทสีดำตัดกับฉากหลังที่เป็นเทือกเขาเจแปนแอลป์ ช่างเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม ตระการตาสำหรับเราจริงๆ
โอ้ววว…..วิวเทือกเขาสวยจังเลย เห็นแล้วยิ้มปริ่ม ^__^
ไปเดินชมปราสาทในมุมอื่นๆ กันบ้าง
สะพานแดงข้ามไปปราสาท เรากะมาเดินข้ามเต็มที่เลย แต่พอมาถึงปรากฏว่าเค้าตั้งรั้วกั้นไว้ ไม่ให้เดินข้ามแล้วเสียดายจัง T T
ไม่ได้ข้ามสะพานแดงไม่เป็นไร เปลี่ยนมาชมวิวด้านในกำแพงปราสาทกันบ้าง
พอเราเดินมาถึงบริเวณประตูทางเข้า จัดแจงเดินไปซื้อตั๋วเข้าชม เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบก่อนเลยว่าใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมงนะ คือรอต่อคิวเข้าปราสาท 1 ชม. และชมในปราสาทอีก 1 ชม. คุณโอเคไหม เราก็โอเคไม่เป็นไรเพราะวันนี้กะเที่ยวสบายๆ ไม่รีบไปไหนอยู่แล้ว พอเดินเข้ามาต่อคิวด้านใน เราเริ่มรู้สึกได้เลยว่า Golden Week ของญี่ปุ่นได้เริ่มขึ้นแล้ว
ค่าเข้าชมปราสาท ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 300 เยน
เวลาเปิด-ปิด 08:30 – 17:00 (ประตูปิดเวลา 16:30)
ยืนรอต่อคิวตั้งแต่บริเวณหน้าร้านขายของที่ระลึก จนแถวค่อยๆ ขยับมาเรื่อยๆ ยืนว่างๆก็ถ่ายรูปอะไรไปเรื่อยเปื่อย ส่วนคนญี่ปุ่นเค้าขึ้นชื่อเรื่องความอดทนอยู่แล้ว เหนื่อยเราไม่เหนื่อย เมื่อยเราไม่เมื่อย สู้ๆ เดี๋ยวก็คงถึงคิวเรา (ให้กำลังใจตัวเอง)
พอแถวขยับมาด้านข้างปราสาท ทางเจ้าหน้าที่มีการกางเต๊นท์ พร้อมม้านั่งยาวมาให้บริการระหว่างรอด้วย แต่ใช่ว่าใครจะเข้าไปนั่งก็ได้ ต้องเข้าไปตามคิว โดยเค้าบริหารจัดการแถวเป็นหน้ากระดานเรียงสี่ แล้วค่อยให้เข้าไปนั่ง พอแถวหน้าลุกออกไป ทุกคนก็ลุกขยับไปยังม้านั่งแถวหน้าโดยอัตโนมัติ โดยไม่มีการเหยียบหรือทำม้านั่งเปื้อนเลย บริการทุกระดับประทับใจ เป็นปลื้มกับการบริหารจริงๆ ^^
รออีกไม่กี่อึดใจ และแล้วก็ได้เข้ามาในปราสาทแล้ว โดยก่อนเข้าต้องถอดรองเท้าใส่ถุงแล้วถือติดตัวเข้าไปด้วย
ด้านในปราสาทมีช่องเล็ก ช่องน้อยสำหรับพลธนู และพลปืน ในการสู้รบ
ส่วนจัดแสดงด้านล่าง แสดงเกี่ยวกับโครงสร้างของปราสาท มีชิ้นส่วนตัวอย่างเก่าๆ นำมาแสดงให้ดูด้วย ในรูปด้านบนเป็นโครงสร้างหินที่ใช้ในการก่อสร้างปราสาท
รูปปั้นบริเวณยอดหลังคา
เสาด้านในปราสาท ที่ไม่ได้ขัดเกลาที่พิถีพิถันมากนัก ไม่รู้ว่าเป็นความนิยมในสมัยนั้นหรือว่าวิทยาการในการตกแต่งยังไม่เฟื่องฟูก็ไม่รู้
ขึ้นมาบริเวณด้านบนอีกชั้น เป็นส่วนจัดแสดงด้านยุทโธปรกรณ์การต่อสู้ต่างๆ ทั้งเสื้อเกราะ ดาบ ปืน กระสุนปืน ตั้งแต่อาวุธยุคเก่าๆ จนถึงอาวุธในสมัยใหม่
กระบวนการทำกระสุนปืนในสมัยก่อน เริ่มตั้งแต่ผสมดินปืนเองไปจนถึงการอัดบล๊อกลูกกระสุน อันนี้เราดูจากภาพที่เค้านำเสนอไปเรื่อยๆนะ ไม่ได้มีความรู้มาก่อน อิอิ
ปืนใหญ่สมัยโบราณ ล้อเป็นไม้ด้วย น่ารักจัง ^^
ขึ้นบันไดชมปราสาทไปเรื่อยๆ วันนี้คนเยอะมากๆ ตัวบันไดเองก็ทั้งแคบทั้งชัน ใครที่อุ้มลูกเล็กๆมา ก็ต้องใช้ความสามารถพิเศษในการทรงตัวกันหน่อย เราเห็นแล้วเสียวแทน ขนาดเราเองยังเกร็งๆ เลย กลัวตก ฉะนั้นหากใครมีสัมภาระ ควรฝากไว้ที่ล๊อกเกอร์ด้านข้างร้านของที่ระลึกจะดีกว่า
เมื่อขึ้นมาถึงบริเวณยอดปราสาท มองออกไปจากช่องหน้าต่าง สามารถชมวิวและมองเห็นเทือกเขาได้ทั้งสี่ทิศ
Matsumoto เมืองที่ห้อมล้อมไปด้วยขุนเขา
มองจากด้านบน คนยังต่อแถวกันยาวเช่นเดิม
ชมด้านบนจนครบแล้ว เดินกลับลงมาชมระเบียงชมจันทร์ Moon-Viewing Wing ที่ด้านล่างกันบ้าง ระเบียงตรงนี้ว่ากันว่าผู้ที่มานั่งชมจันทร์ที่บริเวณนี้ จะสามารถชมความงามของดวงจันทร์ได้พร้อมกันถึงสามดวง ดวงแรกคือ ดวงจันทร์บนท้องฟ้า ดวงที่สองคือ ดวงจันทร์บนผิวน้ำ และดวงที่สามคือ ดวงจันทร์ดวงน้อยในถ้วยสาเกที่ถืออยู่ในมือของผู้ชมจันทร์นั่นเอง
ชมความสวยงามของปราสาทมัตสึโมโต้จนครบแล้ว เดินออกจากปราสาทมายังเห็นแถวยาวเหมือนเดิม พรุ่งนี้ (4 พฤษภาคม 2556) เข้าสู่ Golden Week ของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เราก็คงต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแน่นอน
ตอนออกจากตัวปราสาทมา เป็นเวลาที่นักรบซามูไร (นักแสดง) ออกมาปรากฏกายพอดี เราก็ไปต่อแถวถ่ายรูปคู่กับนักรบแห่งมัตสึโมโต้ท่านนี้มาด้วยเหมือนกัน ถ่ายได้ฟรี ไม่คิดตังค์จ้าาา
เต็มอิ่มกับประวัติศาสตร์ และความงามของปราสาทมัตสึโมโต้มาพอสมควรแล้ว ได้เวลาบ๊ายบาย Matsumoto เมืองแห่งขุนเขาแล้ว ก่อนจากไปขอแชะปราสาทกับเทือกเขาเจแปนแอลป์อีกสักรูป…….บ๊ายบายมัตสึโมโต้ มุ่งสู่จุดหมายต่อไป นั่งรถไฟไปนอนที่โตเกียวจ้า
ระหว่างการเดินทาง รายล้อมไปด้วยภูเขา วิวดีจังเลย
เทือกเขาอัลไพน์ที่คิดถึง
เดินทางมาได้สักพักใหญ่ หันมามองทางฝั่งขวา เห็นอะไรแว๊บๆ ด้านหลังแนวต้นไม้
ฟูจิซังนี่เอง มาได้ไงเนี่ย ^__^
โชคดีจังเลยที่ได้เห็นฟูจิซังอีกครั้งหนึ่ง เหมือนรู้เลยนะว่าเราคิดถึงอยู่ ^^
ฟูจิซังเริ่มโดนทิวเขาบังแล้ว
ก่อนจากกันฟูจิงซังทำเมฆรูปเห็ดให้ดูส่งท้าย บ๊ายบายฟูจิซังพรุ่งนี้เจอกันใหม่ เดี๋ยวจะแวะไปหาอีกครั้งที่ทุ่งชิบะซากุระ ยามานาชิ วันนี้ขอตัวกลับโตเกียวก่อนนะจ๊ะ
ปิดท้ายคืนนี้ด้วยหอคอย Tokyo Sky Tree ยามค่ำคืน พรุ่งนี้ไปตะลุยกันต่อที่ทุ่งชิบะซากุระ ยามานาชิจ้าาาาา
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ ย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (1) วัดชิเทนโนจิ สวนสนุก Universal Studio
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (2) วันแห่งการเดินทางOsaka-Toyama
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (3) เส้นทางกำแพงหิมะ Tateyama Kurobe Alpine Route
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (4) ปราสาทมัตสึโมโต Matsumoto Castle โตเกียวสกายทรี Tokyo Sky Tree
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (5) ชมดอกชิบะซากุระ (Moss Pink) ที่งาน Fuji Shibazakura Matsuri
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (6) เที่ยวกินซ่า อากิฮาบาระ ช้อปตึกม่วง กินซูชิตลาดอะเมโยโก
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (7) ตลาดปลาสึกิจิ ชิบูย่า ฮาราจุกุ
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง by deeryarch