แวะอ่านตอนที่ 2 ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium
Sunny Stone Hotel Osaka
ทริปวันนี้ ตื่นสายๆ ช้าๆ สบายๆ ออกจากโรงแรมสายมากกก ออกเวลาประมาณ 13.00 น. นอนค้างคืนมาสองคืนแล้ว ยังไม่เคยถ่ายรูปหน้าโรงแรมไว้เลย และนี่คือภาพบริเวณหน้าโรงแรม Sunny Stone Hotel Osaka ที่เราพักอยู่
gindako
ก่อนออกเที่ยว เติมเชื้อเพลิงให้ร่างกายด้วยทาโกะยากิ gindako 2 ถาด พร้อมเครื่องดื่ม รสชาติเราว่าอร่อยกว่า และมีหน้าหลากหลายกว่าที่สาขาเอสพลานาด รัชดา อีกนะ
วัดชิเทนโนจิ
ที่แรกเริ่มเที่ยวกันที่ วัดชิเทนโนจิ ซึ่งเป็นวัดที่สำคัญและเก่าแก่ของ โอซาก้า ออกจากสถานี Shiten-Nojimaeyuhigaoka เดินเข้าถนนด้านใน มาตามทางเรื่อยๆ ชมบรรยากาศร้านรวง สองข้างทาง ไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไรคงเป็นเพราะขณะนี้เวลาบ่ายแก่ๆแล้ว
วัดชิเทนโนจิ
เดินตามทางมาเรื่อยๆ เจอกับทางเข้าสุสานญี่ปุ่น จึงออกนอกเส้นทางแวะชมสุสานญี่ปุ่นสักหน่อย
วัดชิเทนโนจิ
บรรยากาศสุสาน เวลาประมาณบ่ายสาม เงียบสงัดดีแท้
วัดชิเทนโนจิ
เจอกับวงล้อด้วย ไม่รู้ว่าเป็นวงล้อหมุนขอพรรึเปล่า แต่ไม่น่าจะใช่มั้ง
วัดชิเทนโนจิ
เดินออกจากสุสานมาแล้ว จะเจอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้เคารพ กราบไหว้ ประปรายก่อนจะเข้าถึงตัววัด
sakura shitennoji
เข้ามาถึงบริเวณวัดชิเทนโนจิ พบซากุระบานด้วย แต่ก็ยังถือว่าไม่มากนัก เหมือนเพิ่งจะผลิดอกซะส่วนมาก แอบตื่นเต้น ยืนถ่ายรูปซากุระอยู่ประมาณ 10 นาทีแน่ะ แบบว่านี่คือซากุระที่บานที่สุดแล้วตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นมาสองวัน
วัดชิเทนโนจิ
และแล้วก็มาถึงทางเข้าชมส่วนด้านในของวัดแล้ว แต่ว่า เค้าปิดแล้ว…..ปิดต่อหน้าต่อตาเราเลย โอ๊ยยย!!! อดใช้สิทธิ์ Osaka Unlimited Pass เข้าไปชมฟรีเลยอะ มัวแต่ไปแวะข้างทาง แวะโน่นนี่ มาไม่ทันเลย น่าเขกกะโหลกตัวเองมากๆ 555
วัดชิเทนโนจิ
เราก็เลยทำได้แค่ชมเจดีย์จากภายนอกรั้ววัด และเดินชมบรรยากาศรอบๆ บริเวณวัด
วัดชิเทนโนจิ
วัดชิเทนโนจิ
ขอถ่ายภาพกับเจดีย์สักหน่อย
เทนโพริน
วงล้อหมุนขอพร เทนโพริน
วัดชิเทนโนจิ
เที่ยวชมวัดชิเทนโนจิเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาทางนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นทางเข้าหลักๆ ของวัด แต่เราดันไปเดินลัดเลาะสุสาน ผ่านสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มาตลอดทาง เลยไม่ได้เข้ามาทางนี้
Osaka Shinsekai
จุดหมายต่อไป ขอออกนอกแผนเที่ยวอีกหน่อย มาเที่ยวหอไอเฟลแห่งนานิวะ หรือที่เรียกอีกชื่อว่า หอคอยซึเทนคะคุ ที่ย่านนี้กัน ย่าน Osaka Shinsekai
Tsutenkaku Tower
เส้นทางเดินไปหอคอย ซึเทนคะคุ นี้ สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าขายของฝาก ร้านอาหารมากมาย หลากหลาย
Tsutenkaku Tower
หอคอยซึเทนคะคุ มีลักษณะพิเศษคือ จะมีดวงไฟรอบๆ หอคอยเป็นสีต่างๆ เพื่อคอยบอกสภาพอากาศในวันนั้นๆ เช่น ไฟสีน้ำเงิน-อากาศดี แจ่มใส / สีฟ้า-ฝนกำลังจะตก / สีเหลือง-หิมะกำลังจะตก เป็นต้น
หอคอยซึเทนคะคุ ยังเป็นสัญลักษณ์ของย่านชินเซไกนี้ด้วย
Tsutenkaku Tower
ขึ้นมาบนจุดชมวิวบนหอคอย มองจากวิวนี้ เห็นปราสาทโอซาก้าด้วย ไหน…มีใครหาเจอบ้าง?? ^__^
Tsutenkaku Tower
ด้านบนหอคอย มีห้องจัดนิทรรศการ แสดงประวัติ ชีวิตความเป็นอยู่ ของคนในย่านนี้ในยุคสมัยก่อน
Tsutenkaku Tower
ด้านบนหอคอยนี้ มีร้านค้าขายกูลิโกะ มากมายหลายแบบ หลายรส เราก็ซื้อมาลองกินเพียบเลย
Tsutenkaku Tower
มีการนำกูลิโกะ มาประกอบกันขึ้นเป็นหอคอยซึเทนคะคุขนาดจำลองด้วย ถ้ากินได้ เราจะกินฐานหอคอยก่อนเลย กูลิโกะช็อกโกแลต งั่ม!!!!!
Billiken
ที่นี่มีรูปปั้น บิลลิเคง เชื่อกันว่าถ้าได้ลูบเท้ารูปปั้นแล้วจะโชคดี ถ้าอยากจะเข้าไปลูบเท้าจะต้องใช้บริการถ่ายรูปจากทางเจ้าหน้าที่ของหอคอยด้วย เราจึงโอเคใช้บริการรูปถ่ายของเค้า พร้อมกับส่งกล้องของเราให้เค้าถ่ายให้ด้วยอีกทีนึง แต่ดูเค้าถ่ายให้เราสิ สั่นไหวมากมาย สงสัยกล้องเราจะหนักเกินไปรึเปล่า 555
KARA
ที่ผนังของร้านขายสินค้าบนหอคอย มีลายเซนต์ของ KARA ทั้งวงเลยนะ ที่ญี่ปุ่นตอนนี้ KARA ดังมากเลย ( KARA เป็นศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลี หน้าตาสวย น่ารัก 5 คน ประกอบด้วย กยูริ คูฮารา นิโคล ซึงฮยอน และจียอง)
Tsutenkaku Tower
ลงจากหอคอยมาเห็นร้านนี้ ในโอซาก้าเจอหลายสาขามากเลย และท่าทางจะอร่อยมาก มีแต่คนต่อแถวยาวรอซื้อกินทุกสาขาเลย เราก็ไม่แน่ใจว่าเค้าขายอะไรนะ แต่ดูจากมาสคอตแล้ว ยืนถืออะไรเป็นแท่งๆ คงเป็นแป้งทอด ลูกชิ้น หรืออะไรสักอย่าง ส่วนชื่อร้านเราก็ไม่รู้จัก แต่เราก็เรียกกันว่า ลูกชิ้นลุงดุ เพราะมาสคอตร้านเป็นลุงหน้าโหดมีหนวดถือแท่งแป้ง หรือลูกชิ้นอยู่
Shinsekai
ลงจากหอคอยมาหามื้อเย็นทานกัน เดินเล่น รอบๆบริเวณหอคอย มีย่านของกิน มีให้เลือกหลายร้าน หากใครได้มาเที่ยวโอซาก้า อยากให้ลองมาทานอาหารแถวย่านนี้เหมือนกันนะ เราว่าอร่อยเด็ดเลยล่ะ
ซาซิมิ
และแล้วเราก็ได้ร้าน สิ่งแรกที่สั่งเลยคือ ปลาดิบ อยากกินมากกกก พอเค้าเอามาเสิร์ฟ เป็นแซลมอนหั่นเป็นชิ้นๆ ติดหนังปลามาด้วย ดูจากหน้าตาแล้วไม่ค่อยน่ากิน แต่พอชิมดูแล้ว เราชอบมาก อร่อยสุดใจเลย ในรูปที่เห็นนั้นจริงแล้วมีชิ้นปลามากกว่านั้น แต่โดนเราจัดเข้าปากไป ก่อนจะนึกออกว่าจะต้องถ่ายรูปเก็บไว้ดู
ข้าวห่อไข่
ข้าวห่อไข่หน้าตาธรรมดาๆ แต่รสชาติกลมกล่อม
ข้าวญี่ปุ่นผัด
ข้าวผัดญี่ปุ่น รสชาติเหมือนข้าวผัดในไทยเลย อร่อยดีนะ
ปลาย่าง
ปลาย่าง จำชื่อปลาไม่ได้ซะแล้ว แต่อร่อยดีอะ เราชอบมาก
ซาซิมิ
เอ๊ะ! หน้าตาคุ้นๆ เนื่องจากอร่อยมาก อยากกินให้พอใจ เลยจัดมาอีก โฮ้วววว……อร่อย \\^0^//
Spa World
กินอิ่มหนำสำราญแล้ว เรามาออนเซนกันต่อเลยที่ Spa World Onsen Around The World แห่งนี้ วิธีการเดินทางจากหอคอยเดินมาสุดทาง ขึ้นบันไดตึกโรงแรมสปาเวิร์ดก็ถึงแล้ว แต่เราบ้านนอก ลงทุนเดินไปขึ้นซับเวย์สถานีนึง แล้วเดินอ้อมไปเข้าทางหน้าโรงแรม พอมาถึงหน้าโรงแรม เห็นหอคอยและร้านที่เราเพิ่งกินข้าวไปตะกี๊ เจ็บใจสุดๆ 555
(ภาพประกอบเอามาจากอินเทอร์เน็ต อ่านลายน้ำไม่ออก ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เอ่ยนามนะจ๊ะ)
spa world map
แผนที่การเดินทาง พร้อมสถานที่ใกล้เคียง
Asia Zone
Europe Zone
ออนเซนที่นี่จะแยกโซน ชาย หญิงออกจากกัน โดยจะมีออนเซนโซนเอเชีย (ตกแต่งแบบเอเชีย) และออนเซนโซนยุโรป (ตกแต่งแบบยุโรป) สลับกันให้บริการ โดยตออนที่เราไปเป็นเดือนเมษายน ผู้หญิงใช้บริการที่โซนเอเชีย ส่วนผู้ชาย ใช้บริการที่โซนยุโรป
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ >> http://www.spaworld.co.jp/english
รายละเอียดการให้บริการออนเซน
โซนเอเชีย
มกราคม, มีนาคม, พฤษภาคม, กรกฎาคม, กันยายน, พฤศจิกายน : ผู้ชาย
กุมภาพันธ์, เมษายน, มิถุนายน, สิงหาคม, ตุลาคม, ธันวาคม : ผู้หญิง
โซนยุโรป
มกราคม, มีนาคม, พฤษภาคม, กรกฎาคม, กันยายน, พฤศจิกายน : ผู้หญิง
กุมภาพันธ์, เมษายน, มิถุนายน, สิงหาคม, ตุลาคม, ธันวาคม : ผู้ชาย
ประสบการณ์ออนเซนครั้งแรก
อย่างที่รู้ๆ กันว่าการไปออนเซนนั้น เป็นการไปแช่ตัวในน้ำอุ่น ผ่อนคลาย จำเป็นต้องถอดทุกอย่างไม่ให้เหลือสักชิ้นเดียว ด้วยความที่เราเป็นหญิงไทย ใจไม่กล้า แต่ทำไงได้ ถือซะว่ามาลองประสบการณ์ใหม่ๆ ไหนๆก็ไม่มีคนรู้จักแล้ว ก่อนหน้านี้พกมาแต่ความอาย ความกังวลใจ ว่าตรงนั้น ตรงนี้ ของเราไม่สวย ไม่งาม หุ่นไม่ดีบ้าง เยอะแยะมากมาย แต่เสียตังค์เข้ามาแล้ว เอาวะ!!! เราต้องเผชิญกับความกลัวให้ได้สิ 555
ไปที่ล๊อกเกอร์ เจอคนเปลือยกายมากมาย แต่ไม่มีใครมองกัน เราไม่รู้อะไรเลย สิ่งแรกที่เราคิดได้คือต้องหาผ้าขนหนูมาก่อน ก็ถามจากผู้หญิงญี่ปุ่นข้างๆ เค้าก็บอกที่วางผ้าผืนเล็กให้ แต่เราเห็นเค้าใช้ผ้าผืนใหญ่อะ เราอยากได้มั่ง เพราะมันจะห่มตัวเราได้มิดชิดกว่า เค้าก็บอกว่าหยิบได้ที่ด้านใน แต่ต้องถอดหมดก่อนนะ แล้วค่อยเดินไปหยิบ >< สุดท้ายก็ไม่รอด เอาก็เอาวะ ฉึบๆๆๆ เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
พอเข้าไปด้านใน ได้พบกับสัจธรรมที่ดีมากๆเลย เราค้นพบว่า คนที่แย่กว่าเราก็มีนะ เราไม่ได้แย่ที่สุดซะหน่อย จากนั้นเราก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น เดินไปเดินมา แช่บ่อนั้นบ่อนี้ มีความสุขมากกก ^^ จนหลังๆ เราเริ่มเดินอย่างอิสระเสรี ไม่มีอาย หน้าหนาขึ้นเป็นเมตร 555
บ่อที่เราประทับใจมากที่สุดคือ บ่อบาหลี น้ำในบ่อมีกลิ่นหอมๆ สีขาวๆ มีกลีบกุหลาบแดงโรย (เหมือนที่เคยเห็นนางเอกในทีวีแช่น้ำนมยังไงยังงั้น) เราแช่บ่อนี้บ่อยสุดเลย ส่วนบ่อที่เราว่าโหดที่สุด คือ บ่อญี่ปุ่นแบบ indoor ร้อนมาก แค่หย่อนขาไปก็ทนไม่ไหวแล้ว นอกจากนั้น เราก็ได้ไปลองแช่บ่อญี่ปุ่นแบบ outdoor ด้วย ทั้งบ่อหิน และบ่อถังไม้ อากาศภายนอกเย็นจัดเลย แช่น้ำอุ่นๆ นอนมองพระจันทร์ในโอซาก้า พร้อมด้วยซากุระที่ยังไม่ค่อยบาน แต่ก็ช่างแสนวิเศษจริงๆ ได้พักผ่อนอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครรู้จัก อย่างแท้จริง
ได้เวลากลับแล้ว เราต้องกลับก่อนที่รถไฟจะหมด หลังจากแต่งตัวออกมา รู้สึกว่าตัวนุ่มๆ ลื่นๆ ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ผิวสดชื่นเหมือนยืนอยู่บนยอดเขา อะไรอย่างนั้นเลย 555 วันนี้มีความสุขจริงๆ เราต้องรีบกลับไปพักผ่อนแล้ว พรุ่งนี้เตรียมเดินทางไกลไปเที่ยวฮิโรชิม่ากันจ้าาาาา
gundum
ปิดท้ายโพสนี้ด้วยกันดั้ม 200 เยน ไขมาจากหอคอย นั่งต่อเล่นก่อนนอน
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตามรอยซากุระย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (1) วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (3) เที่ยวโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ หอคอยซึเทนคะคุ ออนเซน ที่ Spa World
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (4) เที่ยวฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิม่า ศาลเจ้าลอยน้ำ เมืองเก่าคุราชิกิ
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (7) เที่ยวคามาคุระ-โยโกฮาม่า
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (9) ชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Kawagujiko Lake เจดีย์แดง Chureito Pagoda
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (11) โตเกียวดิสนีย์ซี Tokyo Disney Sea ศาลเจ้าเมอิจิ Meiji Jingu Shrine
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (13) วัดอาซากุสะ Sensoji Temple Asakusa ชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ Sumida Park
Travel by deeryarch