เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (13) วัดอาซากุสะ Sensoji Temple Asakusa ชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ Sumida Park

แวะอ่านตอนที่ (12) ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (12) ฮานามิที่สวนอุเอโนะ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ Tokyo Disney Land ฮาจิโกะ Shibuya ไก่ทอดยามะจัง

วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริปซากุระ ฝนตกตั้งแต่เช้าตรู่ จากเดิมเรามีแพลนว่าจะไปตลาดปลาสึกิจิแต่เช้ามืด แต่ก็เปลี่ยนแผนไปแวะเยี่ยมเยียนเพื่อนร่วมงานเก่าหน้าตาหล่อเหลา (ซึ่งแต่ก่อนเป็นที่หมายตาของสาวๆในออฟฟิศ) พอดีเมื่อวานนัดกันที่แยกชิบุยะแต่ว่าคลาดกันเนื่องจากเราไปสายกว่าเวลาที่นัดกันไว้ วันนี้จึงมาแก้ตัวใหม่บุกไปหาถึงออฟฟิศเค้าเลย อิอิ

หลังจากได้พูดคุยกันราวๆ 10 นาที เพื่อนร่วมงานสุดหล่อคนนี้ก็พามาเลี้ยงอาหารเช้าที่แถวๆ ออฟฟิศเค้า เซตอาหารที่เค้าสั่งมาให้อลังการมากๆ อร่อยด้วย รสชาติดี เราลืมถามชื่อเมนูไปเลยว่าชื่ออะไร เผื่อคราวหน้ามีโอกาสมาที่สถานีรถไฟยูเทนจิอีกครั้งจะแวะมากินอีกรอบ

กินข้าวเช้าฟรีแสนอร่อยไปแล้ว เพื่อนสุดหล่อยังบริการอย่างดี เดินกางร่มไปส่งที่สถานีรถไฟ เดินไป คุยไป หัวเราะไป มีเรื่องให้คุยกันตลอดทางเพราะไม่ได้เจอกันนานมาก แถมตอนกลับยังจะให้ร่มเรามาอีก แต่ต้องปฏิเสธเค้าไป เราแบกกลับไทยไม่ไหวแน่ๆ จ้า 555 เรื่องการบริการเทคแคร์ คนญี่ปุ่นนี่เค้าแน่นอนจริงๆ เค้าทำหน้าที่ดูแลเพื่อนต่างชาติอย่างกับเค้าต้องเป็นตัวแทนประเทศเค้ายังไงยังงั้น ใส่ใจรายละเอียดมากๆ นี่ถ้าอุ้มเราได้คงอุ้มไปแล้ว

ออกจากสถานี Yutenji มาแวะไหว้พระ เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนออกเดินทางไกลกันที่วัด เซนโซจิ Sensoji Temple Asakusa หรือบางคนก็เรียกว่า วัดโคมแดงใหญ่ หรือวัดอาซากุสะ

ที่ถนนนากามิเสะ ทางเดินเข้าวัดเซนโซจิ เป็นอีกแหล่งนึงที่มีของฝากขายเยอะมาก หากใครสนใจ ขนมญี่ปุ่น หรือสินค้าพื้นเมืองต่างๆ ก็มาแวะสอยที่นี่กลับบ้านไปได้เช่นกันจ้าาา

วันนี้แม้จะมีฝนตก บรรยากาศอึมครึมไปบ้าง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยว และชาวญี่ปุ่นมาไหว้พระ สักการะสิ่งศักดิ์กันมากมาย ไม่ขาดสาย

กำลังจะกดชัตเตอร์ถ่าย คุณลุงคนนี้ชะแว๊บมาพอดี หน้ากล้องเป๊ะเลยนะคะ 555

มุมนิยม โคมแดงใหญ่ ใครๆก็มาถ่าย ไม่เว้นแม้แต่เรา กดไปหลายแอคชั่นเหมือนกัน

เข้าไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้านใน แม้จะคนเยอะมากๆ แต่เราก็ได้มีโอกาสแหวกฝูงชนเข้าไปยืนชมพระพุทธรูปด้านในอยู่แป๊บนึง ฝนเริ่มตกอีกรอบ จากนั้นเราเดินออกจากวัดไปทางศาลเจ้า เพื่อไปชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ ที่ Sumida Park

ที่ sumida park ซากุระหลายต้นเริ่มบานเต็มที่ แต่ด้วยที่ฝนตก ลมพัดแรง ทำให้มีกลีบซากุระร่วงโรยลงมาบ้าง แต่ก็ได้บรรยากาศที่สวยไปอีกแบบ กับการชมซากุระกลางสายฝน

ทางเดินใน sumida park เหมือนเป็นอุโมงค์ซากุระ มีกลีบดอกซากุระร่วง เราชอบบรรยากาศนี้แบบจัง สวยจริงเลย

ฝนตกชุ่มฉ่ำ

จากฝั่ง Sumida Park มองไปตรงข้ามจะเห็นตึกสำนักงานของ อาซาฮี เบียร์ชื่อดังของญี่ปุ่น ตึกเป็นกระจกสีทอง มีประติมากรรมฟองเบียร์อยู่ข้างๆตึกด้วย เจ้าประติมากรรมนี้หลายๆ คน ไม่ได้มองว่าเป็นฟองเบียร์แต่มองว่าเป็นอุนจิแทนซะงั้น

ถัดมาทางซ้ายของตึกอาซาฮี จะเห็นหอคอยแหลมๆ ซึ่งก็เป็น ตึกโตเกียวสกายทรี ตอนที่เราไปถ่ายรูปมานี้ยังไม่เปิดให้บริการกับนักท่องเที่ยวเลย แต่ปัจจุบันเปิดแล้วนะจ๊ะ รอบหลังๆ เราก็ได้มีโอกาสไปถ่ายรูปมาไว้เหมือนกัน ไว้รีวิวทริปหน้าจะเอามาอวดนะจ๊ะ

ได้เวลาอันสมควร ต้องบอกลาสวนซูมิดะ กลับไปจัดกระเป๋าที่โรงแรม เตรียมตัวขึ้น Airport Limousine Bus เพื่อไปสนามบิน

เรื่องการจอง Airport Limousine Bus เราจองล่วงหน้าก่อนจะใช้บริการ 1 วัน โดยสามารถซื้อตั๋วได้ตามโรงแรมใหญ่ๆ ซึ่งเป็นจุดที่รถจะไปจอดรับผู้โดยสาร เราอยู่ใกล้ที่ไหนก็ไปจองที่นั่นเลยจ้า ราคา 900 เยน ต่อคน รายละเอียดเรื่องสถานที่จุดจอดรถ เวลารถออก และโรงแรมที่จำหน่ายตั๋วรถ ดูจาก URL นี้เลยจ้า

Airport Limousine Bus >> http://www.limousinebus.co.jp/en/

การเดินทางไปสนามบิน นอกจากวิธี นั่งแท็กซี่ / ขึ้น Airport Limousine Bus เราก็สามารถไปสนามบินได้โดยการนั่งรถไฟ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกและงบประมาณที่ตั้งไว้ของแต่ละคนค่ะ

หน้าตาของ Airport Limousine Bus ด้านใน เราสามารถเลือกที่นั่งไหนก็ได้ตามสะดวกเลยจ้ะ ส่วนกระเป๋าจะเอาไว้ใต้ท้องรถแต่ไม่ต้องห่วงเรื่องการสลับกระเป๋า เพราะเค้าจะแจกบัตรเลขกระเป๋ามาให้เราไปรับตอนลงรถด้วย ด้านหน้าจะมีจอ LCD คอยบอกว่าถึงเทอร์มินอลไหนแล้ว นอกจากนั้นคนขับรถเค้าจะทราบด้วยนะว่ามีลง Domestic กี่คน International กี่คน เพราะเราเคยหน้าแตกเดินลงรถไปเพราะคิดว่าถึงแล้ว แต่คนขับบอกว่ายังไม่ถึง ไม่ต้องกลัวหลงเลยจ้า 😀

เมื่อถึงสนามบินแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ที่คอยมาอำนวยความสะดวกด้านกระเป๋ามายืนรอรับ โค้งคำนับเมื่อรถจอด และโค้งอีกเมื่อรถไป ดูสิเรื่องเล็กๆน้อยๆ ของการบริการ เค้าก็ไม่ให้เล็ดลอดไปเลยนะเนี่ย

จบทริปซากุระไปอย่างประทับใจ ยังไม่อยากกลับเลยนะเนี่ย ^_^ ไว้คราวหน้ามีทริป เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะมาเล่าสู่กันฟังต่อ บ๊ายบายเจแปนจ้า….