แวะอ่านตอนที่ 2 ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (2) วันแห่งการเดินทางOsaka-Toyama
เช้าวันนี้ (2 พฤษภาคม 2556) เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแต่เช้า พร้อมกับใช้บริการส่งกระเป๋าไปปลายทางที่สถานี Shinano Omachi ค่าบริการใบละ 1,200 เยน……มาถึงเร็วไปหน่อย ออฟฟิศขายตั๋วยังไม่เปิด เราเลยเดินไปซื้อข้าวกล่องที่สถานี JR Toyama ติดไม้ติดมือไปกินระหว่างทางสักหน่อย
พอ 07.00 น. เป๊ะ!! เจ้าหน้าที่ก็มาเปิดออฟฟิศขายตั๋ว เราซื้อตั๋วรวมตั้งแต่สถานี Dentetsu-Toyama จนถึงสถานี Ogizawa ในราคาทั้งหมด 9,230 เยน ตั๋วเป็นลักษณะใบเดียวใช้ได้ทุกจุด (ฉะนั้นห้ามทำหาย!!) ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ขายเป็นใบแยกเป็นปึกๆ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาแล้วจ้าาา
เมื่อได้เวลา รถไฟมาจอดเทียบชานชลา เดินมุ่งหน้าที่ขึ้นที่ชานชลาเบอร์ 1 ได้เลยจ้าาา (รอบนี้ได้ไปรถไฟมิเตอร์ด้วยนะ เขียวเหลือง เหมือนแท็กซี่มิเตอร์บ้านเราเลย ^__^ )
รถออกมาได้แป๊บนึง เรามารองท้องกันด้วยข้าวกล่องที่ซื้อมาจากสถานี Toyama กัน
เปิดมาเจอกับความพิถีพิถันของแพคเกจ
หน้าตาของข้าวกล่องด้านใน เป็นปลาเนื้อขาวโปะเต็มหน้าข้าว มีมีดพลาสติกแถมมาให้ด้วยนะ เอามาให้ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ เหมือนตัดเค้กเลย รสชาติก็ประมาณว่า….เป็นปลาเปรี้ยวๆ เย็นๆ โปะอยู่บนข้าว สำหรับเราก็กินๆไปก่อนละกัน 555
ระหว่างทางจากสถานี Dentetsu-Toyama รถไฟจะวิ่งใกล้บ้านเรือนมาก ช่วงที่เป็นชุมชนจะเห็นเด็กนักเรียนเดินแถวไปโรงเรียนกันน่ารักมากมาย พอพ้นช่วงชุมชนมาแล้ว จึงจะเริ่มเห็นวิวเทือกเขา ซึ่งวันนี้ค่อนข้างจะมีหมอกปกคลุมยอดเขานิดหน่อย
แม่น้ำแห้งแล้งนิดหน่อย
วิวสองข้างทางเต็มไปด้วยทิวเขา
รถไฟแล่นมาประมาณ 1 ชม. ก็ถึงสถานี Tateyama จากนั้นไปยืนรอต่อแถวขึ้น Cable Car ได้เลยจ้า ใครมาเที่ยวเองก็ไปยืนรอที่ช่อง 1 Individual Gate ได้เลย โดยด้านบน Gate ทางด้านซ้ายสุดเป็นจอบอกเวลารอบรถที่เรากำลังจะไปขึ้น จอกลางคงเป็นกฎหรือคำแนะนำในการท่องเที่ยว และจอสุดท้ายขวาสุดจะมีภาพและข้อมูลที่ท่องเที่ยวตามจุดต่างๆ วนมาให้เราได้ชมจ้าา
ได้เวลาแล้วออกมาขึ้นเคเบิ้ลคาร์ มาเป็นคนแรกๆ ได้ยืนชิดติดคนขับเลย
จุดหมายต่อไป เราจะนั่งเคเบิ้ลคาร์ไต่เขาไปที่สถานี Bijodaira ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
รถออกแล้วจ้า ด้านหน้ากำลังมีรถสวนทางมาพอดีเลย สภาพอากาศวันนี้มีทั้งหมอกและฝน ไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไรบ้าง
เมื่อถึงสถานี Bijodaira แล้ว เดินขึ้นมาต่อคิวขึ้น High Land Bus เพื่อที่จะไปสถานี Murodo ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที
บรรยากาศที่บริเวณท่ารถบัส เริ่มมีเนินหิมะสูงเท่ารถบัสให้ได้เห็น พอให้ได้ตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนการเดินทาง อยากออกไปถ่ายรูปมากเลย แต่กลัวว่าจะไม่ทันรอบรถ อดใจรออีกนิดนึงดีกว่า Y Y
รถออกแล้วจ้าาาา…..
เริ่มเห็นเนินหิมะตรงขอบทาง โอ๊ย!! ตื่นเต้น ตื่นเต๊นนนนนน >,<
สวยจังเลย นี่เราฝันไปรึเปล่าเนี่ย!! เมื่อหนทางยิ่งไกลขึ้น เราก็ยิ่งเพ้อมากขึ้น
หิมะเริ่มสูงกว่ารถบัสแล้ว
แม้สภาพอากาศจะไม่ค่อยเคลียร์ แต่สวยจริงนะ นี่พูดเลย!!! ^___^
ต้นไม้ปราศจากใบ มีหิมะปกคลุมไปทั่ว ทำให้นึกถึงต้นสนในวัยเด็ก ที่เราเอาสำลีมาแปะเวลาใกล้ถึงวันคริสมาสต์
เมื่อมาถึง สถานี Murodo คนเยอะแยะมากมาย ขนาดว่าเรามาเช้าแล้วนะ มาถึงสถานีเห็นหิมะกองใหญ่ ท่วมชั้นสองของ สถานี Murodo เลย
จุดแรก เราเริ่มจากขึ้นบันไดชั้นสองของ สถานี Murodo เดินออกมาชมวิวด้านหลังสถานีกันก่อน
ทุกสิ่งทุกอย่างเต็มไปด้วยหิมะ ขาวโพลนไปหมด มองด้วยตาเปล่าไม่ได้เลยจริงๆนะ ฉะนั้นใครจะมาเที่ยวกำแพงหิมะอย่าลืมพกแว่นกันแดดติดตัวมาด้วยนะจ๊ะ สำคัญมากจริงๆ
มีคนปั้นตุ๊กตาหิมะไว้ด้วย ^_^
เดินมาเรื่อยๆ ด้านหลังสถานี Murodo ก็มีกำแพงหิมะเหมือนกันนะ
แถ่น แทน แท๊นนนนนซ์…….ชิ๊งส์
ที่หลังสถานี Murodo มีเส้นทาง Trekking ด้วยนะ แต่เราครั้งนี้ไม่ได้ไป เกรงว่าเวลาจะไม่พอ เอาไว้โอกาสหน้าเดี๋ยวเราจะมาซ่อมแล้วกันนะ ^^
(เราได้มาเที่ยวเส้นทาง Trekking หลังสถานี Murodo นี้อีกครั้งในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ดูรายละเอียดเส้นทางเพิ่มเติมได้ที่นี่)
>> เที่ยวญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสี (4) เส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route
ลมแรงม๊ากกก หนาวเหน็บ แถมมีหิมะตกด้วย
เพลิดเพลินกับวิวหลังสถานี Murodo ไปแล้ว เราออกมาเดินทางด้านหน้ากันบ้าง ด้านหน้ามีลานเล่นกระดานเลื่อน Snow Sledge สำหรับเด็กๆ ไม่เสียค่าบริการ พร้อมกับข้อมูลของ Yuki no Otani ที่ความสูง 2,390 m อุณหภูมิวันนี้ -6 องศาเซลเซียส ส่วนที่สูงที่สุดคือ 18 เมตร จริงๆแล้วเราอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออก แต่ดูจากป้ายแล้วข้อมูลน่าจะบอกประมาณนี้
มาเริ่มต้นการเดินชมกำแพงหิมะกันเลยดีกว่า Let’s go Yo!
จากกำแพงหิมะเดินตรงมานิดหน่อย จะมีทางแยกขวาออกมา เป็นทางเดินขนานกับทางกำแพงหิมะ เราเดินแยกออกมาชมตรงส่วนนี้ก่อนซึ่งเรียกว่า Panorama Road
วิวสวยมาก หิมะสุดลูกหูลูกตา ประทับใจมากเลย วู้วๆๆๆๆ
แอบเห็นคนใส่สกี ไหลๆ ไปตามทางอยู่บนเขาด้วย น่าสนุกจริงๆเลย
เริ่มออกเดินกับเส้นทาง Panorama Road กัน
โฉมหน้ากล้องคอมแพคคู่ใจ ตัวเล็ก สะเทินน้ำ สะเทินบก ตกน้ำไม่เป็นไร แต่ถ้าตกไฟก็ไม่เหลือ
เดินมาได้เกินครึ่งทางแล้ว หันหลังกลับไป ชมความสวยงามของเส้นทางที่เดินผ่านมา
เดินสุดทาง Panorama Road เลี้ยวซ้ายกลับเข้าสู่เส้นทางกำแพงหิมะอีกครั้ง
ยิ่งเดินไป กำแพงหิมะก็ยิ่งสูงขึ้น อลังการมากๆ
ณ จุดนี้ คือจุดที่กำแพงหิมะมีความสูงมากที่สุด นั่นคือ 18 เมตร
อีกหนึ่งมุมนิยม ที่เวลารถบัสวิ่งผ่านมาจะต้องเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ^^
ลุยกันต่อไป
เดินมาอีกนิดหน่อยใกล้ๆ ถึงสถานี Murodo กำแพงหิมะบางช่วงยังอ่อนนุ่ม สามารถขีดเขียนได้ หลายๆคนจึงมักไปสลักชื่อของตนเอง ชื่อของคนที่เรารัก หรือใครที่ไม่กล้าบอกรัก ก็ไปเขียนชื่อไว้บนกำแพงนี้ได้นะ อิอิ
เดินผ่านมาเจอกับคำนี้…..คนไทยไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ในหลวงท่านก็ยังเป็นสุดยอดในดวงใจของคนไทยทุกคนเสมอ
ระหว่างทางจะมีเชือกยาว มีผ้าสีต่างๆ ผูกไว้ เป็นสิ่งที่ใช้บอกถึงความหนาของชั้นหิมะที่ตกลงมาในเดือนต่างๆ
เดินกลับมาที่สถานี Murodo อีกครั้ง จากนั้นนั่ง Trolley Bus ลอดอุโมงค์ยอดเขา Tateyama ไปสถานี Daikanbo ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ที่สถานี Daikanbo เป็นอีกหนึ่งจุดแวะพักที่ดี มีร้านขายของที่ระลึก ซุ้มอาหาร และที่นั่งให้บริการ หากใครจะแวะพักทานข้าวขอแนะนำให้นั่งที่ติดกระจกเลยนะ ไม่ต้องกลัวหนาว เพราะเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วจะเจอกับวิวที่สวยสุดๆ ขนาดท้องฟ้าไม่แจ่มใสยังสวยได้ขนาดนี้ เป็นปลื้มจริงๆ
หลังจากแวะพักและชมวิวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จุดหมายต่อไปคือสถานี Kurobedaira พาหนะที่จะพาเราเดินทางไปเป็น Ropeway นั่งข้ามเขาไปลูกที่เห็นข้างหน้านู้น ใช้เวลาประมาณ 7 นาทีก็ถึงแล้วจ้าาาา
ตอนที่ Ropeway ออกตัวแรกๆ รู้สึกเสียวมาก เพราะออกตัวเร็วและค่อยๆ วู๊ปปปป เลื่อนลงมาตามสายเคเบิ้ล ให้ความรู้สึกเหมือนตกจากที่สูงเลยนะ สนุกดี ^^
อยากจะบอกว่า การนั่ง Ropeway จากสถานี Daikanbo ไปสถานี Kurobedaira ถือเป็นไฮไลท์ของเราเลย เพราะได้ชมวิวเทือกเขา และแม่น้ำที่ไหลมาจากเขื่อนคุโรเบะ ซึ่งเป็นวิวที่เราประทับใจมาก ขนาดฟ้าอึมครึมยังสวยมากขนาดนี้
ถ่ายมาหลายรูปเลย กดไม่ยั้ง
จาก Ropeway มองลงไปด้านล่าง เห็นเป็นต้นไม้เล็กๆ ท่ามกลางหิมะ แต่จริงๆ แล้วเป็นต้นสนที่ถูกหิมะตกทับปกคลุมอย่างหนาจนเหลือแต่ปลายยอด
หิมะหนาๆ ด้านล่างสถานี Daikanbo
ใกล้ถึงสถานี Kurobedaira แล้ว เวลา 7 นาทีที่นั่ง Ropeway มาตะกี๊ สำหรับเราเป็น 7 นาทีที่สวยงามและประทับใจไม่รู้ลืมเลย
ที่สถานี Kurobedaira มีจุดชมวิวสวยๆ ให้มาถ่ายรูปเก็บความประทับใจด้วยนะ
จากสถานี Kurobedaira นั่งเคเบิ้ลคาร์มาสถานี Kurobeko ใช้เวลาประมาณ 5 นาที เมื่อถึง Kurobeko แล้ว เดินออกมานิดหน่อยจะเจอกับเขื่อน Kurobe
เมื่อเดินมาถึงจุดกึ่งกลางทางเดินบนเขื่อนคุโรเบะ วิวสวยตระการตามาก
วิวจากอีกฝั่งของเขื่อน Kurobe สังเกตทางซ้ายที่เป็นทางหิมะยาวๆจากบนยอดเขาลงมา คาดว่าเมื่อถึงฤดูหน้าน้ำ ตรงนี้คงเป็นน้ำตกอย่างแน่นอนเลย
ผู้พิชิตเขื่อนคุโรเบะ ^__^
วิวเขื่อนคุโรเบะอีกสักครั้งก่อนจาก
จากสถานี Kurobe Dam จุดหมายต่อไป เราจะนั่ง Trolley Bus ไปที่สถานี Ogizawa ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีโดยประมาณ
Trolley Bus วิ่งสวนทางมาจากอีกฟากหนึ่งของเส้นทาง Alpine Route
เมื่อถึงสถานี Ogizawa-Omachi เราก็มาซื้อตั๋วรสบัสเพื่อนั่งไปที่สถานี Shinano Omachi
ราคาตั๋วคนละ 1,330 เยน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็ถึงสถานี Shinano Omachi
ถึงแล้วสถานี Shinano Omachi สถานีนี้เป็นสถานีเล็กๆ น่ารักๆ
หากใช้บริการส่งกระเป๋า สามารถมารับกระเป๋าได้ที่ร้านขายของที่ระลึกข้างๆ สถานี Shinano Omachi
จากนั้นนั่งรถไฟไปลงสถานี Matsumoto
ระหว่างทางวิวสวยจังเลย
ท้องไร่ท้องนา บ้านเรือน เทือกเขา ท้องฟ้า สวยครบถ้วน
Matsumoto………Matsumoto……… ได้ยินเสียงประกาศยาวๆ แบบนี้แสดงว่าถึงมัตสึโมโตแล้ว
พอเหยียบเมืองมัตสึโมโตปุ๊บ รู้สึกหนาวเพิ่มขึ้น ยิ่งมีลมพัดมายิ่งหนาวเพิ่มอีกเท่าตัว เราเดินออกไปที่หน้าสถานี ข้ามถนนเลี้ยวขวาไปที่พัก เราพักที่โรงแรม Matsumoto Tokyu Inn ห้องพักดีมาก กว้างดี วิวจากหน้าต่างเห็นเทือกเขาเจแปนแอลป์ ของใช้ในห้องน้ำก็ดี หอมน่าใช้ทุกอัน แถมยังมีจักรยานให้ยืมปั่นด้วย แต่เราไม่ได้ยืมมา เพราะอากาศหนาว แค่เดินก็หนาวแย่แล้ว 555
เช็คอินเรียบร้อย เราออกมาหามื้อเย็นทานกันที่ห้าง Ario อาหารไม่ค่อยอร่อยเลย หลังจากนั้นเราก็นั่งแท็กซี่จากหน้าสถานีมัตสึโมโตเพื่อไปถ่ายรูปปราสาทมัตสึโมโตยามค่ำคืน ตอนแรกๆก็ว่าจะเดินไปเรื่อยๆ แต่สู้อากาศหนาวไม่ไหวจริงๆ นั่งแท็กซี่ไปปราสาทเสียค่าแท็กซี่ไป 700 เยน ระหว่างทางคุณลุงแท็กซี่ยังพูดคุย ห่วงใย รายงานสภาพอากาศให้เราฟังด้วยว่าพรุ่งนี้ตอนกลางคืนจะหนาวกว่านี้อีก ลุงเค้าพูดอังกฤษเก่งมากๆเลย อะเมซซิ่ง!!! เก่งกว่าเราอีก
ถึงแล้วววว…….ปราสาทมัตสึโมโตยามค่ำคืน กว่าจะถ่ายได้แต่ละรูปมือแข็งเลย หนาวมากๆ ลมก็แรงเหมือนแกล้งกันเลยนะ ไว้พรุ่งนี้จะมาเที่ยวใหม่นะ คืนนี้ขอเผ่นก่อน หนาวมากเลยจ้าาาา……..ฟิ้วววววว
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ ย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (1) วัดชิเทนโนจิ สวนสนุก Universal Studio
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (2) วันแห่งการเดินทางOsaka-Toyama
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (3) เส้นทางกำแพงหิมะ Tateyama Kurobe Alpine Route
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (4) ปราสาทมัตสึโมโต Matsumoto Castle โตเกียวสกายทรี Tokyo Sky Tree
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (5) ชมดอกชิบะซากุระ (Moss Pink) ที่งาน Fuji Shibazakura Matsuri
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (6) เที่ยวกินซ่า อากิฮาบาระ ช้อปตึกม่วง กินซูชิตลาดอะเมโยโก
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (7) ตลาดปลาสึกิจิ ชิบูย่า ฮาราจุกุ
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง by deeryarch