มิงกะลาบา เที่ยวพม่า(4) Yangon เสน่ห์เมืองหลวงเก่าที่ไม่ได้มีแค่วัด

ไปเที่ยวเมืองต่างๆ รอบๆ ย่างกุ้งกันมา 3 วันติดแล้ว วันนี้พวกเราจะมาเที่ยวเมืองหลวงเก่าย่างกุ้งกันบ้าง เริ่มกันที่แรก พระนอนตาหวาน วัดเจ๊าทัตจี (Chaukhtatgyi Buddha)

พระนอนตาหวาน วัดเจ๊าทัตจี Chaukhtatgyi Buddha

Map:16.811723, 96.163752

พระนอนตาหวาน หรือ พระพุทธไสยาสน์ เจ๊าทัตยี เป็นชื่อที่ชาวพม่าเรียกขานพระนอนปางไสยาสน์องค์ใหญ่องค์นี้ ด้วยดวงพระเนตรที่สวยสุกสกาวราวกับมีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่ภายใน จึงเป็นที่มาของชื่อ พระนอนตาหวาน ที่คนไทยชอบเรียกขานกันนั่นเอง

ดวงพระเนตรขององค์พระเจ๊าทัตยี ทำจากแก้วที่สั่งผลิตมาจากประเทศญี่ปุ่น หากมองจากด้านข้าง จะเห็นขนตาหนาเป็นแพงดงาม

ใส่ส่วนของผ้าจีวรที่องค์พระได้ครองอยู่นั้น สร้างได้ปราณีตวิจิตรมาก ตกแต่งสวยงาม และมีความพริ้วสมจริงราวกับองค์พระได้ห่มจีวรที่เป็นผ้าจริงๆ อยู่เลย

ลักษณะการวางพระบาทเหลื่อมกันแบบธรรมชาติ เหมือนกับพระนอนชเวตาเลียงที่หงสาวดี และมีการวาดลวดลายมงคล 108 ประการ ไว้ที่ใต้ฝ่าพระบาทด้วย

จากระเบียงวัดด้านหลังองค์พระนอน สามารถมองเห็นยอดอุโบสถวัดงาทัตจีได้ด้วย

ออกจากวัดพระนอนตาหวาน (Chauk Htat Gyi) มุ่งหน้าสู่ใจกลางเมืองย่างกุ้งที่ อนุสาวรีย์ประกาศอิสรภาพ Mahabandula Park

Mahabandula Park

Map: 16.773138, 96.159479

Mahabandula Park เป็นสวนสาธารณะใจกลางกรุงย่างกุ้ง อยู่ติดกับวงเวียนเจดีย์สุเล สวนนี้สร้างขึ้นสมัยที่พม่ายังถูกอังกฤษเข้าปกครอง มีการจัดสวนและมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของ อนุสาวรีย์ฉลองการประกาศเอกราชจากอังกฤษของประเทศพม่าด้วย

Yangon City Hall ศาลากลางเมืองย่างกุ้ง ตั้งอยู่ตรงข้าม สวนสาธารณะ Mahabandula Park

Emmanuel Baptist Church เป็นโบสถ์แบบแบ๊บติสต์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในย่างกุ้ง ตั้งอยู่หัวมุมถนนของสวนสาธารณะ Mahabandula Park สร้างขึ้นโดยมิชชันนารีชาวอเมริกัน โบสถ์แห่งนี้ได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งในสถานที่เก่าแก่ของเมืองย่างกุ้งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วย

จากแยกวงเวียนสุเลมาต่อที่ เจดีย์โบตะตอง (Botataung Pagoda)

Botataung Pagoda

Map : 16.768520, 96.171969

เจดีย์โบตะตอง หรือ เจดีย์โบตะทาว (Botahtaung Pagoda) เป็นเจดีย์ที่สำคัญอีกองค์หนึ่งตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำย่างกุ้ง ใจกลางเมืองหลวงเก่า Yangon

ทางเข้าองค์เจดีย์โบตะทาว (Botahtaung Pagoda)

ภายในขององค์เจดีย์ออกแบบให้กลวง มีทางเดินมีลักษณะเหมือนเขาวงกต

ผนังบุด้วยทองคำมีกระจกกั้น

ด้านในองค์เจดีย์ ติดแอร์เย็นสบาย อยู่ได้แบบไม่อึดอัด

ภายในแสดงโบราณวัตถุและสิ่งประดิษฐ์โบราณจำนวนมากที่เคยฝังไว้ภายในเจดีย์ก่อนหน้านี้

เจดีย์โบตะทาว (Botahtaung Pagoda) ชื่อของเจดีย์นี้หมายถึง “ทหาร 1,000 นาย” ตามตำนานเล่าขานว่า กษัตริย์มอญซึ่งมีพระนามว่าโอะกะลาปะ รับสั่งให้นายทหารระดับแม่ทัพ 1,000 นาย ตั้งแถวถวายสักการะพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่ ตปุสสะและภัลลิกะ พ่อค้าสองพี่น้องได้อัญเชิญมาทางเรือจากประเทศอินเดีย มาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือดากอง เมื่อ 2,000 ปีก่อน จากนั้นได้สร้างเจดีย์โบตะตองไว้พร้อมทั้งแบ่งพระเกศา 1 เส้นมาบรรจุในเจดีย์ ก่อนนำไปบรรจุที่เจดีย์ชเวดากองและเจดีย์สำคัญอื่นๆ

เชื่อกันว่าผู้สร้างเจดีย์นี้ในสมัยโบราณคือชาวมอญ เนื่องจากขณะที่บูรณะเจดีย์ได้ขุดค้นพบแผ่นดินเผา ด้านหลังมีตัวอักษรที่ถูกจารึกไว้ซึ่งใกล้เคียงกับอักษรพราหมีแถบอินเดียตอนใต้ โดยได้รับการตีความโดย อูลูเปวิน ซึ่งชี้ให้เห็นคำว่า “e” จาก “evam vadi” แสดงให้เห็นถึงตัวอักษรลักษณะแบบมอญโบราณ เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ความเชื่อที่ว่าผู้สร้างเจดีย์ในสมัยโบราณคือชาวมอญนั่นเอง

ข้อมูล
https://th.wikipedia.org/wiki/เจดีย์โบตะทอง

ห้องประดิษฐานพระเกศาธาตุ

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เจดีย์ได้ถูกทำลายลงจากการทิ้งระเบิดโจมตีท่าเรือย่างกุ้งของกองทัพอากาศอังกฤษ และได้มีการบูรณะเจดีย์ขึ้นอีกครั้งในวันเดียวกันกับที่ประเทศพม่าได้รับเอกราชจากประเทศอังกฤษอังกฤษ นั่นคือวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2491

จากการบูรณะเจดีย์ ได้มีการนำซากปรักหักพังออกจากพื้นดินแล้ว เริ่มกระบวนการขุดค้นเพิ่มเติม พบผอบรูป นะ ที่แกะสลักจากศิลาแลง (นะ หรือ นัต หมายถึง วิญญาณหรือผีที่ชาวพม่าเคารพบูชา ตามความเชื่อพื้นเมืองที่มีมาก่อนพุทธศาสนา) และพบสมบัติล้ำค่าหลายชนิด รวมถึงกระบอกทองคำขนาดเล็ก ภายในพบพระธาตุสององค์ซึ่งเชื่อว่าเป็นพระเกศาของพระพุทธเจ้า มีลักษณะเป็นเส้นพระเกศาม้วนเป็นวงกลมและยึดติดเล็กน้อยกับยางรัก

Mahar Bawdi Pahtanhti Pagoda ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันกับ Botahtaung Pagoda แต่ไม่ได้เดินเข้าไปดูข้างใน เพราะมัวแต่กังวลเรื่องต่อคิวสักการะเทพทันใจ เฮ้อ! เสียใจยิ่งนัก

สักการะเจดีย์โบตะตอง เรียบร้อยแล้ว ไปสักการะ นัตโบโบยี หรือ เทพทันใจ สุดฮิตของชาวไทยนั่นเอง

มาตามทางเดินสวยๆ มาต่อแถวได้ตรงนี้เลยจ้า

ระหว่างต่อแถวรอ จะมีน้องเจ้าหน้าที่ มาช่วยแลกเงินและช่วยม้วนธนบัตรให้ โดยน้องจะม้วนธนบัตรสองใบซ้อนกันเป็นรูปกรวย

พับแล้วเป็นแบบนี้นะ

เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี (Botahtaung Phoe Phoe Gyi) เป็นนัตผู้คุ้มครองเจดีย์โบตะตองนี้อยู่ เชื่อกันว่า หากอธิษฐานขออะไรท่านก็จะทำให้สมปรารถนาอย่างรวดเร็วทันใจ จนได้ชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เทพทันใจ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เทพทันใจ หรือ นัตโบโบยี เป็นที่นับถือเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ชาวพม่าที่นิยมมาสักการะ ยังรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย

วิธีการสักการะนัตโบโบยี ให้นำธนบัตรที่ม้วนเป็นกรวยสอดไปที่มือของท่าน จากนั้นเอาหน้าผากของเราไปแตะที่นิ้วชี้ของท่าน และอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนา 1 อย่าง จากนั้นให้ดึงธนบัตรมาเป็นที่ระลึก 1 ใบ

ที่ฝั่งตรงข้ามเจดีย์โบตะตอง ยังมีวิหาร เทพกระซิบ เมี๊ยะนานหน่วย (Mya Nang Nwe) ที่เชื่อกันว่าถ้าไปกระซิบขออะไรก็จะสมหวังเช่นกันเทพกระซิบ เมี๊ยะนานหน่วย (Mya Nang Nwe) เป็นนัตองค์หนึ่งเช่นเดียวกับเทพทันใจ ตำนานเล่าว่า เมี๊ยะนานหน่วย เป็นธิดาพญานาคที่ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก

แม่น้ำย่างกุ้ง และท่าเรือบริเวณเจดีย์โบตะตอง

ยังพอมีเวลาเหลือเยอะ ออกมาเที่ยวนอกตัวเมืองย่างกุ้งบ้าง พวกเราไปกันที่เมืองตันเลียน (Thanlyin) หลายๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อนัก แต่ถ้าบอกชื่อเมืองสิเรียม หลายๆคนคงเริ่ม อ๋ออออออ

ตันเลียน (Thanlyin) หรือที่คนไทยชอบเรียกว่า สิเรียม เป็นเมืองท่าที่สำคัญของพม่า จากย่างกุ้งมาประมาณ 45 กิโลเมตร ข้ามแม่น้ำพะโคมาเพื่อมาเที่ยว เจดีย์กลางน้ำ เยเลพญา (Kyauktan Yele Pagoda)

นั่งเรือข้ามฟากไปแป๊บเดียว ประเดี๋ยวก็ถึง เจดีย์กลางน้ำเยเลพญา แล้วหนา

เท่าที่เราสังเกตเรือข้ามฟากที่ไม่มีหลังคา จะมีแต่ชาวพม่าทั้งนั้น ไม่มีชาวต่างชาติเลย

ตรงกลางภาพจะสังเกตเห็นเสาสูงๆ หน้าองค์เจดีย์ เสานี้เรียกว่า เสาหงส์

สาวๆ ใส่ชุดสวยงาม สีสันสดใส บวกกับรอยยิ้มของพวกเขา ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวรอบๆ ครึกครื้นมากขึ้น

วิหารพระอุปคุต สร้างยื่นออกไปจากเกาะกลางแม่น้ำเล็กน้อยเพื่อให้ความรู้สึกว่าอยู่กลางแม่น้ำจริงๆ อีกทั้งท่าน้ำใต้วิหารพระอุปคุตยังเป็นจุดให้อาหารปลา ซึ่งมีปลาตัวใหญ่ๆ มารอรับอาหารจากผู้คนที่มาทำบุญอีกด้วย

พระอุปคุต หรือ พระบัวเข็ม เกิดหลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพานไปแล้ว 200ปี เชื่อกันว่า พระอุปคุตเป็นพระอรหันต์ที่มีอิทธิฤทธิ์สูง แต่รักสันโดษมากถึงขนาดไปบำเพ็ญภาวนาที่ใต้สะดือทะเล

รูปปั้นพระอุปคุตเป็นปางแหงนหน้าหยุดตะวัน เนื่องจากท่านบำเพ็ญภาวนาที่ใต้สะดือทะเล เวลาฉันภัตตาหารจึงต้องคอยแหงานหน้ามองพระอาทิตย์ และที่ฐานของพระอุปคุตจะทำเป็นรูปสัตว์ทะเลจำพวก กุ้ง หอย ปู ปลา ด้วย

เจดีย์เยเลพญา เป็นที่นิยมในการมากราบขอพรในด้านค้าขาย เชื่อกันว่าหากได้มาขอพรที่นี่จะทำมาค้าขึ้น เฮงๆ อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปที่ทำจากหินอ่อน ปิดทองสวยงามอร่ามตา สวยสุดๆไปเลย

ได้เวลานั่งเรือข้ามฟากกลับแล้ว

ผู้ช่วยนักท่องเที่ยว ขึ้นเรือ ลงเรือ บริการทุกระดับประทับใจ 😀

ออกจาก Thanlyin เดินทางเข้าย่างกุ้งเช่นเดิม ระหว่างทางจะเห็นคนพม่ายังใช้รถม้าในการสัญจรกันอยู่เลย คลาสสิคมากๆ

ไม่ได้เจอแค่รถม้าคันเดียว แต่ระหว่างทางคือ พบเห็นได้เรื่อยๆ เหมือนทุกวันนี้เค้าก็ยังใช้ม้าเทียมเกวียนกันเป็นปกติอยู่ คืออยู่ไทย เราไม่มีโอกาสได้เห็นแน่นอน ได้มาเห็นที่นี่เหมือนได้ย้อนเวลาไปในนิยายไทยสมัยเก่าๆ เราว่าก็ดีนะ เป็นพาหนะที่ไร้มลพิษอย่างแท้ทรู

ระหว่างทางไปย่างกุ้ง พวกเราบอกคนขับรถว่า อยากแวะร้านค้า และแล้วก็เจอร้านค้าข้างทางร้านนี้ ขนมเยอะมากกกก

ขนมบางอย่างทำให้นึกถึงวัยเด็กเหมือนกัน เช่น ขนมปังสอดไส้ครีมที่แบบสังเคราะห์หน่อยๆ และให้มาน้อยๆ หนมปังแข็งๆ ถึงดูปลอมๆ แต่ตอนเด็กๆก็กินนะ 555

ขนมจากประเทศไทยก็มีเยอะนะ

อันนี้อร่อยมาก หวานๆเค็มๆ

กินหนมไป อาโกคนขับรถก็เปิดซันรูฟ (แต่อาโกเรียกมูนรูฟ) ให้พวกเราได้ถ่ายรูปเล่นกันในรถด้วย เนื่องจากพวกเราบ่นๆกันเองว่า แสงน้อย อาโกโชว์เหนือเปิดซันรูฟให้เลยจ้า ง่อววว

รถเช่าขั้นเทพ หากอยากได้ภาพแต่ไม่สามารถจอดรถหรือลงรถได้ แค่เพียงเปิด Moon Roof แล้วยื่นหัวออกไปถ่าย ก็ได้ภาพงามๆ แล้วจ้าา เป็นที่ถูกใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก

อาโกหาร้านขนมตามใจพวกเรา คราวนี้อาโกขอไปซื้อขนมของอาโกบ้าง ขนมของอาโกคือหมากนั่นเอง

หากอยากรู้ว่าซุ้มขายหมากซุ้มไหนอร่อยหรือเป็นที่นิยม ให้สังเกตที่กองปูนที่หยดมาจากไห ถ้ากองปูนยิ่งสูง แสดงว่าร้านนั้นอร่อย

จากเมือง Thanlyin หรือเมืองสิเรียม มาเที่ยวภายในเมืองย่างกุ้งกันต่อที่ เจดีย์กาบาเอ (Kabar Aye Pagoda)

เจดีย์กาบาเอ

Map: 16.856858, 96.154532

เจดีย์กาบาเอ (Kabar Aye Pagoda)

เจดีย์กาบาเอ (Kabar Aye Pagoda) เป็นเจดีย์ทรงกลม กลางเจดีย์มีลักษณะเหมือนเสาใหญ่ๆ อยู่ตรงกลาง ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อเงิน และประดิษฐานอัฐิธาตุของพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตรด้วย

ข้างๆ เจดีย์กาบาเอ มี Museum of Buddha’s Life and Sasanaคล้ายหอรวมพุทธประวัติ มีรูปปั้นต่างๆ มีการทำเป็นแผนที่โลก พร้อมนำบาตรไปวางให้คนได้ร่วมสนุก โยนเหรียญลงบาตร ในช่องประเทศต่างๆ ประมาณว่า ได้ความรู้ด้วย บันเทิงด้วย ประมาณนั้น

เจดีย์ชเวตอเมียต (Swe Taw Myat Pagoda) เจดีย์ทรงปราสาทแปดเหลี่ยม เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจำลอง

ด้านในเจดีย์ เพดาน เสา และการตกแต่งโดยรอบเป็นสีทองอร่ามสวยงามมาก ตรงกลางเป็นบุษบกที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วจำลอง

บุษบกพระเขี้ยวแก้วจำลอง

พระเขี้ยวแก้วจำลอง

ชาวพม่าก็มาทำบุญกัน มีการชักอะไรซัมติงขึ้นไปด้านบนยอดเจดีย์ คล้ายๆกับการทำบุญกระเบื้องหลังคาโบสถ์ที่ไทย ประมาณนั้น

มาพม่าทั้งทีหากมีเวลาก็น่ามาแวะดูน้องช้างเผือก สัตว์คู่บุญเป็นที่โปรดปรานของกษัตริย์พม่า และเป็นส่วนหนึ่งของชนวนเหตุของสงครามไทย-พม่าด้วยเช่นกัน

Yadana White Elephant Garden

Map: 16.881820, 96.123414

สวนช้างเผือก (Yadana White Elephant Garden) เป็นเหมือนปางช้างที่คอยดูแล อนุรักษ์ช้างเผือกที่ยังหลงเหลืออยู่ สามารถเข้ามาดูความน่ารักของน้องช้างได้

นักท่องเที่ยวจะสามารถชมความน่ารักได้เพียงห่างๆ ในบริเวณที่ทางสวนจัดไว้ให้

ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ชอบน้องช้าง

จาก สวนช้างเผือก (Yadana White Elephant Garden) มาไม่ไกลยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจทางศาสนาและศิลปะนั่นคือ วัดพระหินขาว (Lawka Chantha Abaya Labamuni)

พระพุทธรูปหินขาว Lawka Chantha Abaya Labamuni Buddha Image

Map: 16.883995, 96.123873

พระพุทธรูปแกะสลักจากหินขาว (Lawka Chantha Abaya Labamuni Buddha Image) เป็นพระพุทธรูปที่แกะสลักจากหินสีขาวก้อนใหญ่ก้อนเดียว ซึ่งแกะสลักออกมาได้อย่างสมบูรณ์และไร้ตำหนินับว่าเป็นการแกะสลักหินชั้นยอดเยี่ยมที่น่ามาชม