เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium

แวะอ่านตอนที่ 1 ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (1) วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น

กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

ได้ฤกษ์ออกเดินทางแล้ว เวลา 04.oo น. เราก็มาพร้อมหน้ากันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อรอขึ้นเครื่องจากไทยไปเปลี่ยนเครื่องอีกทีที่ กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อนขึ้นเครื่องที่ไทยก็ได้มีเรื่องตื่นเต้นอีกเช่นเคย คือเราลืม JR Pass ไว้ที่บ้าน….ซวยแล้ว ซื้อมาหมื่นกว่าบาท ไม่ได้เอาไปจะเสียใจ และเสียดายตังค์มากเลยนะ ต้องโทรให้ที่บ้านซิ่งรถเอา JR Pass มาให้ได้ และแล้วก็ทันเวลา ทีนี้ก็กดไนตรัส ซิ่ง วิ่งไปขึ้นเครื่องแทน

เวลาประมาณ 10.30 น. (ของมาเลเซีย) เราก็ถึงสนามบินที่กัวลาลัมเปอร์ ได้นั่งพัก นอนพัก แวะทานอาหาร อยู่ที่นั่นราวๆ 2 ชั่วโมง ก็ถึงเวลา 13.00น. เรียกเข้า Gate T14 เพื่อรอขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่น ปลายทางสนามบินคันไซ

Air Asia X

ขึ้น Air Asia X ลำใหญ่ ลัดฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยเวลาเดินทางทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง อยากบอกว่า ตลอดเวลา 6 ชั่วโมงนั้น เราได้แค่ซื้อน้ำเปล่าขวดเดียว กินประทังชีวิตเท่านั้น (เนื่องจากความบ้านนอกคอกนา สุดฤทธิ์ของเราเอง) แอร์สาวแจ้งราคาเป็นเงินริงกิต เราก็เลยยึดติดว่าต้องจ่ายได้แค่เงินริงกิตน่ะสิ 555 ตอนนั้นเราเหลือ 10 ริงกิต เราซื้อน้ำไป 3 ริงกิต ที่เหลือ เราปล่อยให้เพื่อนกู้ไปซื้อน้ำประทังชีวิตเหมือนกับเรา 555 อร๊ายยย บ้านนอกจริงๆ มารู้ทีหลังตอนกลับมาไทย เพื่อนบอกว่า เงินเยนก็ใช้ซื้อได้ ปัดโธ่!! เอาเถอะ ยังไงก็ไม่หิวตายบนเครื่อง ลืมๆมันไปซะ 555

ถึงสนามบินคันไซ เวลาประมาณ 21.00น. (ของประเทศญี่ปุ่น) เห็นแถว ตม.แล้วตกใจมาก คนเป็นล้าน!! (โอเว่อร์ไปนิด ^^) พวกเราทำใจแล้วว่า ต้องตกรถไฟเข้าเมืองอย่างแน่แท้ เดินขยับอยู่ในแถว ตม. ประมาณ 1 ชม. ก็ได้ออกมาแล้ว เย่!!! ดีใจได้ไม่ถึง 1 นาที ก็ต้องวิ่ง 4×100 ไปขึ้นรถไฟสาย Nankai เพื่อเข้าเมือง

Nankai-rail

และนี่ก็เป็นการกดตู้ ซื้อตั๋วรถไฟญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ยืนงงปนตื่นเต้นว่าจะทันรถไฟรึเปล่า แล้วก็ได้ตั๋วมา และพวกเราก็ 4×100 ไปขึ้นรถไฟต่อ

nankai-rail

บรรยากาศรถไฟขบวนสุดท้ายมันเป็นแบบนี้นี่เอง คนน้อย น่านอนชะมัด

นั่งมาจนถึงสถานี Namba แล้วลงกะว่าจะไปต่อสาย Midosuji Line เพื่อไปลงที่ Nishinakajima แต่ปรากฏว่า หมดเวลาให้บริการรถไฟแล้ว พวกเราจึงต้องเดินอ้อมสถานีนัมบะเพื่อไปขึ้นรถแท็กซี่

Sunny Stone Hotel

นั่งแท็กซี่มาสักพักก็มาถึงหน้าโรงแรม Sunny Stone Hotel พวกเรามาถึงโรงแรมกันในเวลาเที่ยงคืนพอดิบพอดี เช็คอินและรีบนำสัมภาระขึ้นห้องโดยพลัน เข้ามาภายในห้อง ไม่แคบมากอย่างที่คิดไว้เลย พื้นที่พอประมาณ พออยู่ได้ เราเคยพักห้องแคบกว่านี้มาแล้วที่เกาหลี ฉะนั้นห้องแบบนี้ถือว่าดี ไม่เลวร้ายเลยสำหรับเรา และที่สำคัญสะอาด เป็นระเบียบมากๆ

Sunny Stone Hotel

ห้องน้ำ ถึงแม้จะเล็ก แต่ก็มีครบทุกอย่างเลยนะ

หลังจากเก็บข้าวของเรียบร้อย พวกเราก็ออกไปย่ำราตรี หาอะไรกินในแฟมิลี่มาร์ท แถวๆ โรงแรม จากนั้นก็แยกย้ายกันพักผ่อน เพื่อภารกิจแรก เราจะเริ่ม เที่ยวโอซาก้า กันในวันรุ่งขึ้น

============================================

Nishinakajima Station

เช้าวันรุ่งขึ้น 31 มีนาคม 2555 เราเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี Nishinakajima Station ซึ่งเป็นสถานีใกล้โรงแรม เดินเพียง 5 นาที เราจะนั่งไป 1 สถานีเพื่อไปซื้อ Osaka Unlimited Pass และออกบัตร JR Pass ตัวจริง กันที่สถานี Shin-Osaka ซึ่งอยู่ห่างสถานีโรงแรมที่เราพักอยู่เพียงสถานีเดียว

Shin Osaka Station

พอมาถึงสถานี Shin-Osaka พวกเราก็มาออกตั๋ว JR Pass ที่ห้องออกตั๋วโดยสาร โดยกำหนดวันให้ตรงตามที่เราต้องการใช้ จากนั้นเราก็มาซื้อ Osaka Unlimited Pass แบบ 2 วัน เพื่อใช้เป็นบัตรท่องเที่ยว เป็นบัตรส่วนลดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และใช้ขึ้นรถไฟฟ้าท่องเที่ยวภายในโอซาก้า ภายใน 2 วัน รายละเอียดดังนี้จ้า

Osaka Unlimited Pass 2 days ราคา 2,700 เยน ใช้เที่ยวในโอซาก้า 2 วัน เข้าชม 28 สถานที่ท่องเที่ยวได้ฟรี ไม่เสียค่าเข้า พร้อมส่วนลดค่าเข้าชมที่อื่นๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังใช้โดยสารรถไฟใต้ดินในโอซาก้าได้แบบไม่จำกัดเที่ยว รูดปรื๊ดๆ คุ้มค่าจริงๆ รายละเอียดตามนี้เลยจ้า http://www.osaka-info.jp/osp/en/guide/guide.html

หลังจาก ซื้อพาสต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย ฝนก็ตกกระหน่ำอย่างหนัก ทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนจากเดิมจะไปเที่ยวปราสาทโอซาก้าในตอนเช้า จึงต้องย้ายมาตอนบ่าย และไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ ที่อยู่ในร่มก่อน เราจึงเลือกเดินทางไปที่ Osaka Aquarium หรือ ไคยูคัง ก่อนเป็นที่แรก

Osaka Aquarium

ขณะที่เดินมาเที่ยวที่ไคยูคัง ฝนก็ยังตกไม่หาย แต่ก็เริ่มไม่หนักแล้ว

Osaka Aquarium

ที่ไคยูคังนี้ เป็นอควาเรี่ยมรวบรวมสัตว์น้ำต่างๆ ไว้มากมาย ถือว่าเป็นอควาเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ ที่นี่ใช้บัตร Osaka Unlimited Pass 2 days เป็นส่วนลดบัตรค่าเข้าชมได้นะ เดินตามทางที่มีให้ไว้ มีให้ชมหลายชั้นมากๆ เดินกันจนปวดฝ่าเท้าเลยล่ะ

Osaka Aquarium

เดินขึ้นมาเรื่อยๆ จะพบกับโซนด้านนอก เป็นโซนป่าญี่ปุ่น มีทั้งสัตว์น้ำและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำต่างๆ มากมาย เช่น ปูตัวเล็กจิ๋ว ปลาแปลกๆ

Osaka Aquarium

เดินเข้ามาด้านในก้มีสัตว์แปลกๆ ให้ชมเยอะเหมือนกัน

Osaka Aquarium

มาเจอเจ้านกน้อย ใส่สูททักซิโด้ หล่อทุกตัวเลย

Osaka Aquarium

โลกใต้ทะเล ฝูงปลาและปะการัง

Osaka Aquarium

ปลาหมึก ตาใสแจ๋ว

Osaka Aquarium

นกฮูก หลับปุ๋ย

Osaka Aquarium

ที่นี่ มีทรายจากอียิปต์มาให้ทดลองสัมผัสด้วย

Osaka Aquarium

เจ้าเต่าจ้าวเวหา I believe I can fly

Osaka Aquarium

เห็นเจ้าตัวนี้แล้ว สัญญากับตัวเองเลยว่า เย็นนี้ต้องไปโดนทาโกะอร่อยๆ สักสองถาด

Osaka Aquarium

Tempozan Market Place

เที่ยวไคยูคังเสร็จ ก็ใกล้จะเที่ยงแล้ว เราจะไปหาอะไรทานกันที่ ศูนย์อาหารนานิวะ เป็นศูนย์อาหารที่มีการตกแต่งบรรยากาศให้เหมือนสมัยเอโดะ ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า Tempozan Market Place ตึกสีส้มๆ ที่เห็นทางซ้ายมือนั่นเอง และหากมองตรงไป จะเห็นชิงช้าสวรรค์วงใหญ่ นั่นคือ Tempozan Ferris Wheel เดี๋ยวเราจะไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กันหลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จแล้ว

Tempozan Market Place

บรรยากาศทางเข้าศูนย์อาหารนานิวะ คนเยอะมากๆ หาที่นั่งไม่ได้เลย จึงไม่ได้เข้าไปหาอะไรทานข้างใน เราจึงไปหาซื้อทาโกะยากิ 2 ถาด แล้วไปนั่งตากลมเย็น กินทาโกะ กันที่หน้าศูนย์การค้า Tempozan Market Place แทน

Tempozan Ferris Wheel

หลังจากทาน ทาโกะเรียบร้อยแล้ว เราก็ตรงมาที่ชิงช้าสวรรค์เทมโปซาน มานั่งชิงช้าสวรรค์ชมวิวครึ้มๆ ของอ่าวโอซาก้ากัน โดยเราสามารถใช้ Osaka Unlimited Pass 2 days ขึ้นฟรีได้คนละ 1 รอบ

Tempozan Ferris Wheel

Osaka Bay

เริ่มกันที่ความสูงระดับเล็กน้อย ชมตึกไคยูคัง

Osaka Bay

บรรยากาศอ่าวโอซาก้า แบบครึ้มๆ

อ่าวโอซาก้า

ดูจากวิวแล้ว วันนี้ตกทั้งวันแน่ๆ

อ่าวโอซาก้า

จากมุมนี้จะสามารถมองเห็น พิพิธภัณฑ์สมุทรศาสตร์ ได้ เป็นโดมกระจกกลมๆ อยู่กลางทะเล หากจะเข้าไปเที่ยวจะต้องขึ้นบันไดเลื่อนลอดใต้ทะเลขึ้นไปเที่ยวด้วย เจ๋งมากเลย แต่เราไม่ได้ไปนะ ^__^

Tempozan Ferris Wheel

Osaka

ลงจากชิงช้าสวรรค์มาแล้ว ขณะเดินทางสู่จุดหมายต่อไป เจอกับฝาท่อลายปราสาทโอซาก้า ไม่พลาดถ่ายรูปเก็บไว้ด้วย ซึ่งในทริปนี้ เจอฝาท่อที่ไหน ถ่ายไว้ทุกที่เลย คิดซะว่าเป็นการเก็บ RC ไปในตัว ^_^

NHK

สถานที่ต่อไป เราจะไปเที่ยวกันที่ ปราสาทโอซาก้า โดยเราเดินออกทางประตูที่ผ่าน สถานี NHK ตอนแรกเราก็ไม่รู้จักหรอก แต่พอดีเดอะแกงค์เราซึ่งเป็นโซวอน บอกว่า SNSD เคยมาถ่ายรายการที่นี่ เค้าบอกเรามาเท่านี้แหละ ^^

Osaka Castle

ทิวทัศน์กำแพงรอบๆ ปราสาทโอซาก้า ดูยิ่งใหญ่แข็งแรงจัง ในคูน้ำที่เห้นในภาพนี้ พี่ที่ไปด้วยกันบอกว่า แต่ก่อนปล่อยจระเข้ไว้ด้วย ไม่รู้ว่าจริงหรือพี่เค้าอำเรากันแน่นะ แต่เราก็เชื่อซะหน่อย

Osaka Castle

เดินเข้าปราสาท ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย

sakura

ดอกซากุระยังตูมอยู่เลย

Osaka Castle

เดินเข้ามาได้นิดหน่อย มองดูท้องฟ้าเหมือนงานจะเข้า ประเดี๋ยวเดียวฝนก็ตกหนักซ่าๆ วิ่งหาที่หลบไม่ทัน ตัวเปียกกันเป็นแถว

Osaka Castle

พอฝนเบาลงแล้ว เราก็ออกเดินไปเที่ยวปราสาทโอซาก้ากันต่อ ถึงแล้วว ปราสาทโอซาก้า

Osaka Castle

ที่หน้าปราสาทมีคู่ บ่าว สาว มาถ่ายพรีเวดดิ้ง 1-2 คู่

Osaka Castle

ขอถ่ายกับปราสาทบ้าง

Osaka Castle

ปลาที่ยอดปราสาท

Osaka Castle

สวนทางด้านทิศตะวันออกของปราสาท ถ้าซากุระบานจะสวยมากกว่านี้เยอะเลย
หลังจากนี้เราก็ลงไปชมปราสาททุกชั้น จนถึงชั้นล่าง และได้ไปลองใส่ชุดนักรบญี่ปุ่นด้วย ในราคา 300 เยน คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครมาใส่เท่าไร ก็มีแต่พวกเรานี่แหละ ไปลองใส่กัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ถ่ายรูปให้ ตลกดีจริงๆ

Osaka Castle

ลงจากปราสาทโอซาก้ามา เวลาประมาณ 16.00 น.

sakura

Osaka Castle

และก็ได้เวลา บ๊ายบายปราสาทโอซาก้า มุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปนั่นคือ โดทงโบริ และ ชินไซบาชิ ที่สถานี นัมบะ

Osaka

ก่อนกลับเจอกับ ฝาท่อ รูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในโอซาก้า เช่น ปราสาทโอซาก้า คลองโดทงโบริ ตึก Umeda Sky Building

โดทงโบริ

ภารกิจต่อไป เราจะมากินปูกันที่ร้านชื่อดัง ร้านนี้ เข้าไปสอบถามแล้ว ต้องรอคิว 40 นาที เราจึงตัดสินใจจองไว้ และเดินเล่นแถวๆ นั้นไปก่อน

โดทงโบริ

ร้านรวงแถวนี้ ประดับประดาได้อย่างน่าสนใจ แค่ดูก็รู้เลยว่าร้านนี้ขายอะไร

โดทงโบริ

ร้านทาโกะยากิสุดอร่อย ติดใจทาโกะชีสมากๆ อร่อยสุดๆ ไปเลย

โดทงโบริ

ตุ๊กตาตีกลอง อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของโดทงโบริ มีคนมาถ่ายรูปด้วยตลอดเลย หัวกระไดไม่เคยแห้ง

โดทงโบริ

ป้ายไฟกูลิโกะ และเบียร์อาซาฮี สถานที่ไฮไลท์ ที่ใครๆ เมื่อมาที่ โดทงโบริ แล้วไม่ได้มาเห็น ก็เหมือนมาไม่ถึง

และพวกเราก็ไม่พลาดที่จะทำสิ่งนี้ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง Dotonbori 555 (อภินันทนาการภาพจาก @Supparurg Hosoponepong)

โดทงโบริ

เดินเล่นอย่างเพลิดเพลิน ก็ถึงเวลามากินปูกันแล้ว ปูที่ร้านนี้รสชาติดีมาก แคะจนไม่ให้เหลือติดเปลือกสักเส้นเลย พวกเราก็กินกันอย่างจริงจังนะ จนแทบไม่ได้ถ่ายรูปเลย แต่อย่างน้อยก็ได้มาฝากตั้งรูปนึงแน่ะ ^^