ได้โอกาสกลับมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง พอดีว่าแอร์เอเชียออกโปรโมชั่นมาพอดีเลยเน้นฤกษ์สะดวกจองซะเลย โดยไม่ได้ศึกษาวันหยุดของญี่ปุ่นมาล่วงหน้า จองเสร็จแล้วถึงรู้ว่า เราไปเที่ยวช่วง Golden Week ของญี่ปุ่นพอดิบพอดี ไหนๆก็จองไปแล้ว ทำใจให้สบายดีกว่า 555
โดยทริปนี้ไฮไลท์ของเราคือ กำแพงหิมะ (Snow wall) ในเส้นทาง Tateyama-Kurobe Alpine Route และชมชิบะซากุระที่ Yamanashi นั่นเอง
เริ่มต้นเดินทางวันที่ 29 เมษายน 2556 เครื่องแลนดิ้งลงสนามบินคันไซ เวลาประมาณ 22.30 น.เราต้องรีบวิ่ง รีบเดิน ไปต่อแถว ทำทุกอย่างเพื่อให้ทันรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่จะไป Namba เที่ยว 23.00 น. ให้ได้ ไม่งั้นได้นั่งแท็กซี่ยาวถึงโรงแรม งบบานแน่ๆ ชะเอิง เอิง เอย…………และแล้วเราก็โชคดี ทำทุกอย่างตั้งแต่ผ่าน ตม. (ช่วงที่ไปยังต้องทำวีซ่าอยู่) รับกระเป๋า เสร็จทันภายในครึ่งชั่วโมง วิ่งตับแลบขึ้นรถไฟ ตั๋วเต๋อไม่ซื้อ เอา Suica ที่ใช้เมื่อทริปที่แล้ว มาแปะวิ่งเข้าไปทันพอดีเลย
รถไฟมาถึงสถานี Namba ต่อแท็กซี่ไปอีกนิดหน่อย สนนราคา 3,300 เยน ถึงหน้าโรงแรมประมาณ 00.30 น. เราพักที่โรงแรม Sunny Stone Hotel Shin-Osaka เป็นโรงแรมที่เราเคยมาพักในทริปซากุระทริปที่แล้ว กลับไปดูรีวิวห้องพักได้ตาม URL นี้เลยจ้า >> Sunny Stone Hotel Shin-Osaka
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย ทางโรงแรมแจ้งว่ามีพัสดุส่งถึงเรา นั่นก็คือ Pocket wifi ที่เราทำเรื่องเช่าเอาไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทย โดยให้ส่งพัสดุมารอเราไว้ก่อนหน้าที่เราจะเข้าไปเช็คอิน 1 วัน รายละเอียดการเช่า Pocket wifi ตาม URL นี้เลยจ้า >> http://www.marumura.com/travel/?id=3051
เช็คอิน เก็บของเรียบร้อย นั่งเครื่องมาหลายชั่วโมงยังไม่ได้ทานอะไรเลย แวะไปทานข้าวหน้าเนื้อ Yoshinoya สาขาที่อยู่ใกล้โรงแรม เป็นอาหารมื้อแรกที่มาเหยียบญี่ปุ่น ข้าวหน้าเนื้อ กับซุปร้อนๆ ฟินไปเลย
ผักดอง เครื่องเคียงในเซ็ต
เพิ่มไข่ออนเซนอีกหน่อย อร่อยจุงเลยยยย ^0^
เสร็จภาพกิจกินมื้อดึกก่อนนอน กลับห้องไปพักผ่อน เตรียมพบความสนุกของวันพรุ่งนี้
อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 30 เมษายน 2556 เริ่มต้นทริปวันนี้กันด้วยสายฝนชุ่มฉ่ำ เราจะไปวัดชิเทนโนจิอีกสักครั้ง เนื่องจากคราวที่แล้วไปสาย เลยอดเข้าไปชมภายในวัด ครั้งนี้ไม่พลาด มาแต่เช้าตรู่เลย
วิธีเดินทาง >> Osaka City Subway Tanimachi Line ลงที่ Shiten-Nojimaeyuhigaoka ออกประตู 4 จะเจอกับถนนทางเดินไปวัดตามรูปด้านบนจ้า
ถึงแล้ว….วัดชิเทนโนจิ
เดินผ่านวงล้อเทมโพริน วงล้อที่ใช้หมุนขอพร
ได้ตั๋วเข้าชมมาแล้ว
มาชมบรรยากาศด้านในวัดกัน
ทางเข้าตรงนี้ ด้านในเหมือนเป็นหอวิปัสนาอะไรสักอย่าง
ด้านในดูสงบเงียบดี สามารถขึ้นไปเดินชมด้านในได้ แต่ต้องถอดรองเท้าก่อน
ออกจากหอวิปัสนาตรงส่วนนั้นมา เจอกับต้นไม้ใหญ่ มีใบเป็นพุ่มโต สีเขียวสด น่ารักมาก เหมือนวิกผม Afro เลย
เข้ามาชมสวนญี่ปุ่นด้านในวัดกันบ้าง
ฝนตกพรำๆ ต้นไม้ได้น้ำเป็นสีเขียวชุ่มฉ่ำหมดทั้งสวย ดูแล้วสดชื่นมาก
ฝูงปลาในสวนว่ายมาต้อนรับ มีปลาสีทองด้วย สวยงามมากเลย สีเหลืองทองตัดกับความชุ่มฉ่ำของสีเขียว
ปลาสีส้มสะท้อนแสง เห็นแล้วแปลกใจเลย ส้มสะท้อนแสงจริงๆ
เดินชมสวนด้านในจนครบแล้ว มาเยี่ยมเยียนฝูงเต่ากันบ้าง
หลังจากเที่ยวชมวัดชิเทนโนจิแล้ว มิชชั่นต่อไปเราจะไปเที่ยวกันที่ สวนสนุก Universal Studio
วิธีการเดินทาง >> จากสถานี NISHIKUJO JR Yumesaki Line ลงที่สถานี UNIVERSALCITY
บริเวณทางเดินเข้าสวนสนุก มีโชว์ความสามารถของน้องลิง น่ารักและฉลาดมากๆ
บริเวณทางเข้าสวนสนุกมีการตกแต่ง เสมือนเราเดินอยู่ในเมืองภาพยนตร์
ถึงทางเข้าสวนสนุกแล้ว เริ่มตื่นเต้น อิอิ
มา สวนสนุก Universal Studio ต้องมาถ่ายรูปกับลูกโลกนี้ด้วยนะจ๊ะ ถึงจะเรียกว่ามาถึง ^_^
เข้าสู่บรรยากาศภายใน
มีตัวการ์ตูนต่างๆ ออกมาทักทาย สร้างสีสัน
มาสวนสนุกก็ต้องไปเล่นเครื่องเล่น เราจะเริ่มไปเล่น Spider Man ก่อนเป็นที่แรก
ถึงแล้ว….คนไม่เยอะด้วยโชคดีจัง เดินเข้าไปต่อแถวสิบนาทีก็ได้เล่นแล้ว โดยรวมแล้ว Spider Man ก็สนุกดีนะ หากอยากเล่นเครื่องเล่นแนวนี้ที่เมืองไทย ที่ซานโตรินี่ เพชรบุรี ก็มีเครื่องเล่นประเภท 3D อยู่เช่นกัน แต่จะไม่ใช่เรื่องราวที่เรารู้จักมักคุ้นมากนัก
เครื่องเล่นอันต่อไป Back to the future เข้าไปแล้วได้เล่นเลย ไม่ต้องรอนาน วันนี้โชคดีจริงๆ Back to the future เป็นเครื่องเล่นที่เราไปนั่งรถและสนุกไปกับภาพสามมิติ พร้อมเรื่องราวตื่นเต้นที่จะพาเราทะลุข้ามมิติ ใครพักผ่อนน้อยแล้วมาเล่นเครื่องเล่นนี้ ออกมาอาจจะเวียนหัวได้เหมือนเดอะแก๊งค์ของเรา สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยงจริงๆ 555
โฉมหน้ารถทะลุมิติ Back to the future
ต่อจาก Back to the future มาต่อกันที่โซน Jurassic Park
เดินมาเจอไดโนเสาร์ออกจากห้องแต่งตัว
มายืนแอคชั่นให้ทุกๆคน ยลโฉมถ่ายรูป แต่เด็กๆ ส่วนใหญ่จะกลัวและร้องไห้กันไปตามระเบียบ
เครื่องเล่นในโซนจูราสสิคพาร์ค น่าสนใจนะ แต่ว่าเปียกแน่นอน เลยมายืนดูคนอื่นเปียกแทน
ต่อจากโซน Jurassic Park มาต่อกันที่ Jaws ฉลามโหด
ไปล่องเรือลุยดงฉลามกันดีกว่า
บรรยากาศการล่องเรือดูเงียบสงบมาก พอได้เล่นเครื่องเล่น Jaws เราชอบมากเลยนะ ทำเอฟเฟกต์ดีทีเดียว
มาต่อกันที่เครื่องเล่นที่หวาดเสียวที่สุดใน สวนสนุก Universal Studio…….Snoopy บิน
โซนนี้ตกแต่งน่ารัก เครื่องเล่นคัพเค้ก
สก๊อยซ์เกิร์ล @ Japan
ตะวันเริ่มลับฟ้า มาดูบรรยากาศสวนสนุกกลางคืนกันบ้าง
ได้บรรยากาศอีกแบบ เหมือนเดินอยู่ที่อเมริกา
มาต่อแถวซื้อน่องไก่ ใหญ่เบ้อเริ่ม
ลูกโลก ฉากหลังฉายสปอตไลต์ ดูอลังการมาก
ได้เวลาบอกลา สวนสนุก Universal Studio วันนี้สนุกมาก ได้เล่นเครื่องเล่นทุกอย่างที่อยากเล่น บ๊ายบายย Universal Studio
มื้อค่ำวันนี้มาทานปูกันที่นี่ Dotonbori เข้าไปขอจองคิวก่อน
ระหว่างรอคิว 40 นาที เราก็เดินเล่นที่คลองโดทงโบริไปก่อน อีกฝั่งข้ามสะพานไปจะเจอกับตลาดในร่ม Shinsaibashi แหล่งช้อปปิ้งอีกแห่งของโอซาก้า
ย่านนี้มากมายไปด้วยป้ายไฟโฆษณาสวยๆ สร้างสีสันให้กับย่านนี้เป็นอย่างดี
ส่วนป้ายไฟกูลิโกะ กับเบียร์อาซาฮี เป็นอีกสัญลักษณ์ของโดทงโบริ
ระหว่างรอกินปู มาทานทาโกะยากิเจ้าอร่อยรองท้องกันก่อน
เมนูแรกมาแล้ว ซาซิมิปู
เมนูต่อไป ขาปูย่าง
เมนูต่อไป ชาบูขาปู โดยสรุปแล้วเราชอบทุกเมนูเลย อาจเป็นเพราะเราเป็นคนชอบทานปูมากๆ วันนี้ทั้งสนุกสนาน และอิ่มหนำสำราญ พรุ่งนี้เตรียมตัวเดินทางไกลไป Toyama จ้า….
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ ย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (1) วัดชิเทนโนจิ สวนสนุก Universal Studio
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (2) วันแห่งการเดินทางOsaka-Toyama
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (3) เส้นทางกำแพงหิมะ Tateyama Kurobe Alpine Route
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (4) ปราสาทมัตสึโมโต Matsumoto Castle โตเกียวสกายทรี Tokyo Sky Tree
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (5) ชมดอกชิบะซากุระ (Moss Pink) ที่งาน Fuji Shibazakura Matsuri
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (6) เที่ยวกินซ่า อากิฮาบาระ ช้อปตึกม่วง กินซูชิตลาดอะเมโยโก
เที่ยวญี่ปุ่น กำแพงหิมะ (7) ตลาดปลาสึกิจิ ชิบูย่า ฮาราจุกุ
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง by deeryarch