วันนี้ออกจากที่พักตั้งแต่เช้า 05.50น. เดินไปขึ้นรถ Shuttle Bus เพื่อไปเที่ยว Phoenix Park Ski Resort วิธีการเดินทางสุดแสนง่ายดายเนื่องจาก ทาง Ski Resort มี Shuttle Bus รับส่งทุกวัน จากโซลถึงสกีรีสอร์ท รถมีรอบ 06.15 และ 09.30 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ค่าโดยสาร 10,000 วอน ซื้อตั๋วได้บนรถเลย (ขากลับจากสกีรีสอร์ทมาโซล วันจันทร์-ศุกร์ มีรอบ 17.40น. วันเสาร์-อาทิตย์ มีรอบ 14.40น. ค่าโดยสาร 10,000 วอน เท่าเดิม)
ข้อมูลการเดินทางเพิ่มเติม >> https://www.phoenixpark.co.kr/global/english/phoenixresort/contactus_transportation01.aspx
Shuttle Bus จะจอดอยู่ที่หลังอาคาร Glass Tower วิธีการเดินทางโดยรถไฟฟ้าลงที่สถานี Samseong ประตู 4 และเดินมารอตรงป้ายหลังอาคาร Glass Tower ดังรูปด้านบนนี้ พวกเราโชคดีพักอยู่สถานีนี้พอดี จึงใช้เวลาเดินไปรอขึ้นรถไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้น
เวลาประมาณ 8 โมงนิดๆ เราก็เดินทางมาถึง Phoenix Park Ski Resort พวกเราตั้งใจว่าจะค้างคืนที่นี่หนึ่งคืน เพื่อให้ได้เล่นสกีอย่างคุ้มค่าคุ้มเวลามากที่สุด แต่เรายังไม่หาที่พักในตอนนี้ เนื่องจากเผื่อใจไว้ก่อนหากเล่นสกีไม่สนุกเราจะได้ไม่ต้องเสียค่าที่พักฟรีๆ
ก่อนอื่นใด เราก็เดินหาร้านเช่าอุปกรณ์สกีก่อน เราเลือกเช่าอุปกรณ์ด้านนอกรีสอร์ทเนื่องจากราคาถูกกว่าด้านใน ร้านนี้บริการดี แทบจะอุ้มไปเปลี่ยนชุดเลยทีเดียว พนักงานสุภาพ คอยถามไถ่ว่าเราเล่นเป็นไหม เนื่องจากพวกเรามาเล่นสกีกันเป็นครั้งแรก ทางร้านจึงสอนการใช้อุปกรณ์ให้อย่างละเอียด แถมท้ายด้วยคูปองส่วนลดลานสกีให้ด้วย อิอิ
ได้ครบเซตแล้วก็ติดตั้งอุปกรณ์ทันที
แต่เดอะแก๊งค์อีกคนหนึ่งของเรา ยังหาไซส์รองเท้าไม่ได้ ก็เดินหามาเรื่อยๆ ไม่มีเลยสักร้าน จนมาเจอกับร้านนี้ ทางร้านบริการสุดใจเลย นำรองเท้าไซส์ใหญ่ที่สุดมาไขๆ ขยายไซต์ให้จนใส่ได้ ส่วนเรานั่งรอไปเรื่อยๆ พนักงานหนุ่มๆที่ร้านก็เอาขนมพื้นเมืองมาให้ลองทานแก้เหงา เป็นขนมต๊อกที่ทำมาจากข้าว ทานกับกาแฟดำปี๋ ไม่ใส่น้ำตาลสักช้อน……..เอิ่ม ขมไปหน่อย เล่นไม่ใส่น้ำตาลเลย เราเลยซัดแต่ต๊อกอย่างเดียว แทบไม่แตะกาแฟเลย
เจ้าของร้านยังคุยเก่งมาก เค้าเล่าให้ฟังว่าเคยมาประเทศไทย มาเล่นกีฬาทางน้ำที่พัทยา และเล่าให้ฟังอีกว่าอยู่ทีมเดียวกับนักร้องไทยที่ชื่อ ดีดี้ ถามเราว่า (แปล) รู้จักดีดี้ไหม? …………เราเป็นพวกไม่ดูทีวีด้วยสินะ ดีดี้ไหนว้าาา พยายามขุดความทรงจำตั้งแต่จำความได้ ก็ให้คำตอบพี่เค้าไม่ได้อยู่ดี 😀 อ้อ…ร้านนี้ก็มีคูปองส่วนลดลานสกีให้ด้วยเหมือนกัน และคาดว่าแถวนี้คงมีทุกร้านอย่างแน่นอน
ได้อุปกรณ์กันครบแล้ว เอาของมาเก็บล็อคเกอร์ เตรียมตัว Let’s Go…
ออกมาลานสกีแล้ว ได้เวลาสนุกแล้วสิ
เวลาประมาณบ่ายโมง อุณหภูมิภายนอก -7 องศาC แต่เล่นไปเล่นมาร้อนมาก แดดแรง
บ้านนอกมากๆ เล่นก็ไม่เป็น เบรกไงก็ไม่รู้ อยากเบรกก็ล้มเอา 555 พยายามทำตามทฤษฎีแล้ว แต่ก็ไม่ได้สักที ล้มทีก็ลุกไม่ค่อยได้ จากภาพนี้เคยมีคนถามว่า นั่นไปนั่งคุยกันอยู่ใช่ไหม?
เล่นสกีอยู่ได้ไม่นาน รู้สึกว่าทรมานร่างกายและจิตใจจริงๆ เราจึงตัดสินใจเอาอุปกรณ์ไปคืน แล้วไปเล่นอุปกรณ์อย่างอื่น และขึ้นกอนโดล่าบ้าง แต่ก่อนจะคืนอุปกรณ์ไป ขอแอคชั่นถ่ายรูปสร้างภาพ หลอกลวงประชาชนก่อนสักหน่อย 😀
จากนั้นเราก็มาเดินเล่น ถ่ายรูป ชมบรรยากาศลานสกีแทน
มาที่สกีรีสอร์ทแห่งนี้ ต้องได้นั่งกอนโดล่าขึ้นไปชมวิวข้างบนด้วย พวกเราไปซื้อบัตรขึ้นกอนโดล่ากัน แต่ก็ไม่ทันเวลา เพราะไปใกล้กับเวลากอนโดล่าพักให้บริการพอดี เปิดอีกทีก็ต้องรออีกเป็นชั่วโมง
ขณะนี้เวลาเย็นลงแล้ว พวกเราตัดสินใจจะไม่ค้างคืนที่สกีรีสอร์ทแห่งนี้ และเปลี่ยนแผนไปเที่ยวเทศกาลตกปลาน้ำแข็งที่อินเจกันในวันพรุ่งนี้เลย จากรีสอร์ท หารถตรงไปที่อินเจไม่ได้ ตรงไปชุนชอนเลยก็ไม่ได้ เราเลยต้องไปที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรถบัสยงเพียง
พอถึงสถานีรถบัสยงเพียง ไม่มีรถตรงไปที่อินเจ เราจึงต้องไปลงจุดที่ใหญ่และใกล้ๆไว้ก่อน คือ เมืองชุนชอน และเราจะพักที่ชุนชอนกันในคืนนี้
เมื่อถึงสถานีรสบัสชุนชอนแล้ว พวกเราเดินไปถามหารถบัสที่จะไปอินเจในวันพรุ่งนี้ พนักงานบอกว่ารอบแรกเริ่ม 06.15น. เสร็จเรียบร้อย เดินข้ามสะพานลอยหน้าสถานี ไปหามื้อเย็นกินกัน มาชุนชอนเราต้องกิน ทัคคาลบี้ อาหารเลื่องชื่อของเมืองชุนชอน
ผัดสุกแล้ววว….สำหรับทัคคาลบี้ร้านนี้ รสชาติถือว่าอร่อยดี รู้สึกว่าจะอร่อยกว่าร้านที่ท่าเรือเกาะนามิ เมื่อครั้งที่เราไปกินปี 2011 โน้นนนอีก
เมื่อกินอิ่มแล้ว เราก็เดินวอร์คอินหาที่พักในคืนนี้ เราตั้งหลักเดินจากสถานีขนส่งชุนชอน เดินไปทางทิศสถานีรถไฟชุนชอน ข้ามถนนไป แถวนั้นมี Motel เยอะมากๆ จนมาเจอกับที่นี่ (ในภาพเป็นสภาพห้องตอนเช้าที่ผ่านการใช้งานจากพวกเราแล้ว)
สภาพห้องดีและสะอาดมากๆ เป็นห้องแบบนอนพื้นอุ่น ห้องกว้างขวาง มีทีวี LCD จอยักษ์ เซตของใช้จำเป็นต่างๆ ให้มาเป็นกระเป๋าเล็กๆ เพียงพอสำหรับสามคน (แปรงสีฟัน ใบมีดโกน โลชั่น AHA สำลีปั่นหู ฟองน้ำอาบน้ำเล็กๆ ถุงยางอนามัย ฯลฯ) อีกทั้ง มีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตให้ภายในห้อง ทั้งหมดนี้ในราคา 55,000 วอนเท่านั้น ถือว่าถูกมากๆ และประทับใจจริงๆ ห้องดีกว่าที่โซลอีกนะเนี่ย แถมถูกกว่าอีก เสียดายอ่านชื่อโรงแรมไม่ออกเพราะเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมด
หลังจากทำธุระยามเช้ากันเรียบร้อยแล้ว เราเดินจากที่พักมาถึงสถานีรถบัสชุนชอน 08.00น. เมื่อไปถามหารถไปอินเจ ปรากฏว่ารอบต่อไปคือ 11.00น. โอ้ววนานมาก เมื่อคืนเราก็ชะล่าใจถามมาแต่รอบแรก แต่ไม่ถามรอบต่อไป พนักงานจึงเสนอทางเลือกให้ไปลงที่ฮงชอน แล้วต่อไปที่อินเจอีกทีนึง พวกเราก็ยินดีทำตาม ดีกว่านั่งอยู่ที่สถานีรถบัสเฉยๆ หลายชั่วโมงเบื่อแย่
จากชุนชอนมาถึงฮงชอนใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชม.เท่านั้น เรามาถึงสถานีฮงชอนเวลา 1oโมงกว่าๆ พอถึงแล้วถามหารถไปอินเจได้ความว่า รอบต่อไปคือ 12.00น. คร่าาาาา ว๊ายยยย ตายแล้ว ฉันมาทำไมที่นี่ ยอมนั่งรอที่ชุนชอน อาจจะถึงก่อนแล้วมั้ง ยังไงก็ต้องนั่งรออีกเกือบสองชั่วโมง หาอะไรแถวๆนั้น กระแทกปากแก้หิวไปพลางๆ ก่อน
เวลาประมาณบ่ายโมง เราก็ถึงสถานีอินเจ เข้าไปซื้อตั๋วรถเมล์เพื่อนั่งไปงานเทศกาลตกปลาน้ำแข็ง และไม่ลืมแวะเข้าไปขอข้อมูลการเดินทางเผื่อขากลับที่ information หลังสถานีด้วย information ที่นี่พูดอังกฤษไม่ค่อยได้ เค้าจึงต่อสายให้เราคุยกับอีกคน ถึงเค้าจะพูดอังกฤษไม่ได้แต่มารยาทเค้าง๊ามงาม ขอโทษพวกเราและยิ้มให้ตลอดเวลา
ระหว่างรอรถเมล์ที่ชานชลามีรถเมล์คันหนึ่งมาเทียบท่า เราจึงเข้าไปถาม คนขับโบกมือให้ขึ้นๆมา แล้วเราก็ได้นั่งรถลัดเลาะเขา เข้าตัวเมืองอินเจ นั่งมาไม่นานนักก็สุดสาย เราจึงเดินย้อนไปถามคนขับ คนขับบอกให้ลงไปขึ้นแท็กซี่……..โอ๊ยยยย โกรธมากกก บอกให้ตูขึ้นทำขี้เกลืออะไรนี่
พอขึ้นแท็กซี่มาสักพัก ระหว่างทางแท็กซี่ขับผ่านสถานีอินเจด้วย และเพิ่งรู้ว่าจากสถานีมาถึงงานใกล้นิดเดียวเอง เพิ่มความโกรธรถเมล์เป็นสองเท่า ฮึ่ย! ฮึ่ย! ><” อิรถเมล์บ้า
เวลาประมาณ บ่ายโมงครึ่งเราก็มาถึง เทศกาลตกปลาน้ำแข็งอินเจกันแล้ว สนนราคาค่าแท็กซี่มาถึงงาน 16,800 วอน
มาถึงงานแล้ว เราตรงดิ่งมาเช่ารถกันคนละคันไปเล้ยยย เราจะใช้เจ้าสกีนี้เป็นยานพาหนะระหว่างเที่ยวชมในงาน ราคา 5,000 วอน/ คัน
ได้มาคนละคันแล้วว…ความรู้สึกแรกที่ได้นั่งสกีนี้ รู้สึกชอบมากๆ มันให้ความรู้สึกครึกครื้น ระริกระรี้ เฮฮา เป็นอย่างมาก แตะนิดนึงก็ไปฉิวแล้ว สนุกมากๆ เลย พวกเราไถๆๆ กันอย่างสะใจ ลื่นไหลอย่างเป็นอิสระ โว้วๆๆ สนุกเป็นที่สุดเลย \\^0^//
แผ่นน้ำแข็งกว้างใหญ่ไพศาล ตอนนี้เรายืนอยู่บนแม่น้ำกันอย่างแท้จริง
ที่งานมีนักตกปลามากมายหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นเด็กๆ ไปจนถึงรุ่นเดอะ
รูที่ถูกเจาะไว้ตกปลา
ที่งานยังมีเครื่องเล่นให้สนุกอีกมากมาย
มีรถม้าด้วยนะ
พ่อลูกคู่นี้นั่งสกีมาด้วยกัน พอถึงจุดที่เป็นสันดอนแม่น้ำ สกีไหลถอยหลังกลับ ลูกสาว กรี๊ดๆๆ พ่อก็หัวเราะชอบใจ ต้องมีผู้ใจบุญมาช่วยเข็นไปข้างหน้าให้ ดูแล้วก็สนุกดี 😀
พาหนะคู่ใจตลอดงาน จอดง่าย ใช้พื้นที่น้อย
ที่งานนี้มีสิ่งก่อสร้างห่อหุ้มด้่วยน้ำแข็ง ดูสวยงามและแปลกตาไปอีกแบบ
ชิงช้าแช่เย็น
ซุ้มเหล่านี้ เป็นซุ้มนั่งตกปลาแบบหลบหนีความหนาว
หลังจากดูโน่นดูนี่ เล่นโน่นเล่นนี่ มาสักพักนึงแล้ว พวกเราเพิ่งเริ่มคิดได้ว่าเรามาลองตกปลาน้ำแข็งกันบ้างซิ ไถๆสกีตรงมาที่ร้านขายเบ็ด และเหยื้อตกปลา
กว่าจะคิดได้ว่าต้องตกปลาบ้างอะไรบ้าง หิมะก็เริ่มตก และตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ลมพัดแรง เกือบจะเรียกว่าพายุหิมะได้เลยมั้ง คนเกาหลีวิ่งกรูเข้าที่กำบัง แต่คนไทยสามคนอย่างเราตื่นเต้นแฮะ ไม่เคยเห็นหิมะตกหนักขนาดนี้มาก่อนเลย
ได้มาแล้วทั้งเบ็ดและเหยื่อ
หิมะตกหนักเราก็ไม่หวั่น หนาวจนมือสั่นหงึกๆ
“แปลกใจฉันจริง ปลาไม่กินเหยื่อ”
นั่งตกอยู่ไม่นาน ปลาไม่กินเหยื่อ และเริ่มทนตากหิมะกันไม่ได้แล้ว เป็นต้องบอกลา เอารถไปคืน และไปเช่า Snow Sledge กระดานลื่นหิมะ เล่นกันท่ามกลางหิมะตกหนักอย่างนั้นเลย ดูบ้านนอกจริงๆ เล้ยยย เหมือนเด็กเล่นน้ำฝนไม่มีผิด
หลังจากงานเลิกแล้ว ไม่มีแท็กซี่ผ่านเข้ามาในงานเลย หิมะยังตกหนักมาก ถ้าเดินออกไปยืนรอข้างถนนต้องแข็งตายแย่างแน่แท้ เราจึงเข้าไปในกองอำนวยการเพื่อสอบถามว่ามีจุดรอแท็กซี่ภายในงานไหม พวกเราพบกับเจ้าหน้าที่ของงานซึ่งเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นซะส่วนใหญ่ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว พร้อมยังให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยการโทรเรียกแท็กซี่ให้ เราได้คุยกันนิดหน่อย เค้าบอกเราว่า (ยินดีต้อนรับสู่เกาหลี ยินดีต้อนรับสู่อินเจ กลับมาอีกครั้งนะ) จนกระทั่งแท็กซี่มา เค้ายังกางร่มเดินไปส่งพวกเราอีกด้วย ยังซึ้งในน้ำใจไม่หาย…..Happy Inje จริงๆ
ความโชคดียังไม่หมดเท่านั้น คุณลุงแท็กซี่ยังแบ่งขนมไส้ถั่วแดง ที่เรียกว่าปัง มาให้ถุงใหญ่ แรกๆก็เกรงใจแต่แกก็ยื่นให้ พอลองกินไปอันแรกแล้วติดใจ จนลุงเค้ายกให้ทั้งถุงเลย พอถึงสถานีอินเจ สนนราคาค่าแท็กซี่อยู่ที่ 7,000 วอน ซึ่งถือว่าถูกมาก หารสามคนยิ่งถูกเข้าไปอีก รู้งี้นั่งแท็กซี่ตั้งแต่แรกดีกว่า เราทิปให้คุณลุงไป 1,000 วอนเป็นค่าขนมอร่อยๆ ซึ่งมันคงไม่เพียงพอหรอก เพราะขนมถุงใหญ่มาก ราคาน่าจะ 5,000 วอนได้….เฮ้ออ วันนี้เป็นวันที่สนุกที่สุดของการท่องเที่ยวเกาหลีเลยจริงๆนะ ฟินแล้วล่ะ …….Happy Inje มากๆเลย
ถึงสถานีอินเจแล้ว ที่นี่หิมะตกเยอะมากๆ ที่โซลจะเป็นไงบ้างนะ
ได้เวลากลับแล้ว บ๊าย บาย อินเจ
กลับมาถึงโซลแล้ว หิมะหนาไม่แพ้กันเลย แถมน้องชายยัง Face Time รายงานสดจากเมืองไทยมาอีกว่า ได้ข่าวว่าที่เกาหลีมีพายุหิมะ เป็นไงบ้าง น่ากลัวไหม เราตอบไปว่า โห สนุกมาก…….อยากให้มาเจอด้วยกันเลยนะเนี่ย 😀
สิ้นสุดการท่องเที่ยวต่างจังหวัดเกาหลีแล้ว เหลือเวลาอยู่ที่โซล 3 วัน พรุ่งนี้เราจะไปเที่ยวเมืองหลวงโซลกันบ้าง วันนี้บอกได้คำเดียวว่า Happy Inje มากๆ เลย