วัดนิเวศธรรมประวัติราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้ามกับพระราชวังบางปะอิน การเดินทางมายังวัดนิเวศธรรมประวัติเหมือนกันการเดินทางมาที่พระราชวังบางปะอินเลย เมื่อถึงพระราชวังบางปะอินแล้วให้สังเกตหาป้ายที่จอดรถวัดนิเวศธรรมประวัติ
เมื่อจอดรถแล้วก็ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปเที่ยววัดนิเวศธรรมประวัติกันได้เลย…
นั่งกระเช้าไฟฟ้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาสนุกสนานดีไปอีกแบบ ได้ชมวิวสองฝั่งแม่น้ำไปด้วย ถึงแม้ว่าจะแป๊บเดียวก็ตาม ในส่วนของค่าโดยสารนั้น บริจาคเป็นค่าไฟให้วัดได้ตามศรัทธาเลยจ้า
ได้มีพระราชศรัทธาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนิเวศธรรมประวัติขึ้น เพื่อให้เป็นที่บำเพ็ญพระราชกุศลใกล้พระราชวัง สร้างเลียนแบบโบสถ์แบบตะวันตก ออกแบบโดยใช้ศิลปะแบบโกธิค (Gothic)
พระอุโบสถของวัด ที่เป็นอาคารมีโดมหอคอยปลายแหลมตามอย่างวิหารในตะวันตก ยอดโดมมีหอนาฬิกาและระฆังชุด เหนือขึ้นไปประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
ทางเข้าพระอุโบสถ
ไม่เพียงแต่ภายนอกที่ตกแต่งแบบวิหารแบบตะวันตก ภายในก็มีการตกแต่งในสไตล์ตะวันตก ได้อย่างลงตัวสวยงามเช่นกัน
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธนฤมลธรรโมภาสเป็นพระประธาน บริเวณฐานชุกชีซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระประธานก็มีลักษณะเหมือนที่ตั้งไม้กางเขนในโบสถ์ของตะวันตก
บนฝาผนังด้านหน้าของพระประธาน เป็นภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ของรัชกาลที่ 5 ตกแต่งด้วยกระจกสีจากประเทศอิตาลี สวยงาม ครีเอทีฟมากๆ
เพดานโบสถ์ก็ตกแต่งในแบบไทยๆ ผสานกับแบบตะวันตกได้อย่างวิจิตรลงตัว
ลายพระหัตถ์ในหลวงรัชกาลที่ 5
เหตุที่ทรงมีพระราชประสงค์ให้สร้างสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกภายในวัดนั้น ปรากฎหลักฐานในจารึกประกาศพระราชทานที่วัดและเสนาสนะเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสงฆ์ ซึ่งมีความในพระราชดำริตอนหนึ่งในการถวายพระอาราม ดังนี้
“… ข้าพเจ้าคิดจะใคร่สร้างเป็นพระอารามน้อยๆ สำหรับที่บำเพ็ญกุศลใกล้พระราชวังในเวลาเมื่อได้มาขึ้นมาพักแรมอยู่ที่เกาะบางปะอินนี้ จึงได้คิดถมดินให้พ้นน้ำตามฤดูที่เคยประมาณว่าเป็นอย่างมากโดยปรกติ แล้วให้เจ้าพนักงานจ้างเหมาช่างชาวตะวันตก กะวางแผนที่ทำตามแบบอย่างกับประเทศตะวันตกทุกสิ่ง ซึ่งได้ให้คิดสร้างโดยแบบอย่างเป็นของชาวต่างประเทศดังนี้ ด้วยมีความประสงค์จะบูชาพระพุทธศาสนาด้วยของแปลกประหลาด แลเพื่อให้อาณาประชาราษฎร์ทั้งปวงชมเล่นเป็่นของแปลก ยังไม่เคยมีในพระอารามอื่น แลเป็นของมั่นคงถาวรสมควรเป็นพระอารามหลวงในหัวเมือง ใช่จะนิยมยินดีเลื่อมใสในลัทธิศาสนาอื่น นอกจากพระพุทธศาสนานั้นหามิได้” (ที่มา : www.watniwet.com)
บรรยากาศภายนอกพระอุโบสถ
สงบ ร่มรื่น และยังคงมีกลิ่นอายการตกแต่งในแบบตะวันตกอยู่
ศาลาการเปรียญมวก เป็นหอพระภายในประดิษฐานพระคันธารราษฎร์ปางขอฝน
พิพิธภัณฑ์ภายในวัด ด้านหน้าที่เห็นนั้นคือ นาฬิกาแดด
นาฬิกาแดด ใช้แสงแดดทอดเงาบอกเวลา
ลานหน้าทางเข้าพระอุโบสถ เขียวชอุ่มชุ่มฉ่ำ เพราะฝนเพิ่งหยุดตก
ฝนหยุดตกแล้ว พวกเด็กๆ ออกมาวิ่งเล่นได้ เย่!!
เด็กน้อยทั้งหลาย สดใสร่าเริง เล่นกับพี่ๆ น้องๆ และยังเล่นกับคนด้วยนะ 🙂
บอกลาน้องๆ สี่ขาเป็นที่เรียบร้อย ได้เวลานั่งกระเช้าไฟฟ้ากลับไปฝั่งพระราชวังบางปะอิน ยังพอมีเวลาเหลืออีกทำให้เที่ยวพระราชวังบางปะอินกันต่อได้ ตอนนี้ฝนเริ่มครึ้มมาอีกแล้ว ต้องรีบนั่งกระเช้าข้ามแม่น้ำก่อนฝนจะตกหนัก ไม่งั้นติดฝนอดเที่ยวพระราชวังแน่นวลลลเลย 🙂
ติดตามบันทึก เที่ยวอยุธยา ตอนอื่นๆ ได้ที่นี่
ร้านต้นน้ำ บางปะอิน สวรรค์สำหรับคนรักกุ้งแม่น้ำ
วัดนิเวศธรรมประวัติ วัดไทยสไตล์ Gothic
พระราชวังบางปะอิน ความงดงามทรงคุณค่าจากอยุธยา-รัตนโกสินทร์
บันทึกการเดินทาง by DeeryArch.me