แวะอ่านตอนที่ (8) ที่นี่จ้า >> เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (8) เที่ยวฮาโกเน่ Hagone ชิมไข่ดำ Owakudani ล่องเรือโจรสลัด ทะเลสาบอาชิ Ashi Lake
หลังจากที่เมื่อวาน เราไปเที่ยวฮาโกเน่ ขึ้นกระเช้าชิมไข่ดำ ล่องเรือทะเลสาบอาชิเรียบร้อยแล้ว เราก็มุ่งหน้ามาที่สถานี Kawagujiko Station และพักค้างคืนที่นี่ 1 คืน ที่โรงแรม Wilderness Park Lodge.
เนื่องจากเมื่อคืนมาถึงทะเลสาบคาวากุจิโกะค่อนข้างดึก เลยมาถ่ายรูปตึกโรงแรมกันให้ดูในตอนเช้า หน้าตาของโรงแรมที่พักเมื่อคืน เป็นแบบนี้ อย่างที่บอกไปตอนแรกคือ ก่อนหน้านี้ได้จองห้อง Wilderness Park Lodge ทาง Agoda โดยรูปที่ทางโรงแรมใส่ไว้ให้เราพิจารณาใน Agoda ไม่เหมือนกับของจริงเลยสักนิดเดียว ในเว็บบอกว่าเป็นห้องพักแบบเรียวกัง แต่ที่เราได้พักเป็นห้องแบบเรียวกังจริง แต่สภาพเก่า มีที่นอน หมอน ผ้าห่ม ให้ปูกันเองตามอัธยาศัย นอกจากนั้น พวกยูกาตะ ผ้าเช็ดตัว และของจำเป็นอื่นๆ ไม่มีให้เลย ต้องเช่าผ้าเช็ดตัวกับทางโรงแรม ในส่วนของห้องน้ำ เป็นแบบห้องน้ำรวม ต้องเดินลงมาอาบเองที่ชั้นล่าง แต่อาหารเช้าที่นี่มีให้ฟรี เป็น กาแฟ ชา ขนมปัง แยม กินได้ตามอัธยาศัย แต่สิ่งที่เป็นข้อดีของโรงแรมนี้ก็คือ ทำเลดี ตื่นเช้ามาได้เห็นฟูจิแบบเต็มลูกแบบไม่มีอะไรมาบดบังเลย
เนื่องจากเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นบ่อยๆ เพราะหนาวมาก ฮีตเตอร์ในห้องเกิดดับกลางดึก แล้วพวกเราไม่รู้ตัวนอนกันด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาทั้งคืน โดยใส่แค่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นธรรมดา แต่ข้อดีของอากาศหนาวมันทำให้เรารู้สึกตัวตื่นมาแต่เช้า มองออกไปนอกหน้าต่างฟ้าใสมาก ไม่มีเมฆสักก้อน เจอฟูจิซังตื่นมาทักทายกันแต่เช้าเลย ^__^ วันนี้โชคดีจัง
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว เราก็มาถ่ายรูปฟูจิซังที่บริเวณหน้าโรงแรม โรงแรมนี้ทำเลดีมากๆ ถ้าเค้าปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่านี้หน่อย ค่าที่พักน่าจะสูงขึ้นกว่านี้ได้อีก ตอนนี้เมฆเริ่มมาบ้างประปราย แต่ก็ถือว่าฟ้ายังใสอยู่
ขอถ่ายรูปคู่กับฟูจิซังซักรูป ^__^
จากนั้นพวกเราเดินจากโรงแรมมาที่ จุดที่ 21 ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายของทะเลสาบคาวากุจิโกะ ใช้เวลาเดินไม่นานนัก เนื่องจากโรงแรมที่เราพักอยู่กึ่งกลางระหว่างจุดที่ 20 และ 21
จุดที่ 21 นี้ เป็นจุดที่เราสามารถชมภูเขาไฟฟูจิได้แบบเต็มลูกโดยที่ไม่มีอะไรมาบดบัง
ใกล้ๆ กับจุดถ่ายรูปของจุดที่ 21 นั้น เป็นที่จอดสุดสายของรถเรโทรบัส บัสที่ให้บริการรับส่งนักท่องเที่ยวภายในทะเลสาบคาวากุจิโกะ หน้าตาเป็นคันสีเหลืองๆ เหมือนในรูป ในการขึ้นลงแต่ละครั้งน่าจะเสียค่าบริการที่ 150-200 เยน ในเรื่องราคาไม่ค่อยแม่นเท่าไร เพราะพวกเราซื้อตั๋วแบบเหมาทั้งวันกับคนขับ ใบละ 1,000 เยน ขึ้นลงกี่รอบก็ได้ภายในวันนั้น
แต่เท่าที่เห็น Retro Bus มีให้บริการน้อยคันมาก เราขึ้น 4 ครั้ง เจอคนขับคนเดิม 3 ครั้ง และการรอรถแต่ละครั้งใช้เวลานานมาก จนเราต้องเดินกันเองแวะตามทางไปเรื่อยๆ ทางที่คุ้มที่สุดเราว่า จ่ายเป็นรอบไปดีกว่า ซื้อตั๋วเหมาวันไม่ค่อยคุ้มเท่าไร
จากจุดที่ 21 เรานั่ง Retro Bus มาลงกันที่จุด 18 Kubota Icchiku Bijutsukan ว่ากันว่า เป็นจุดที่ชมภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามมีซากุระเป็นฉากหน้า และจุดนี้ยังมีอุโมงค์ต้นโมมิจิด้วย
หลังจากลงจากรถมาแล้ว เราดูไม่ออกเลยว่าตรงไหนคืออุโมงค์ต้นโมมิจิ เปรียบเทียบกับรูปในหนังสือก็ยังไม่ค่อยคล้าย จนเดอะแกงค์เราคนหนึ่งบอกว่า ภาพนี้คืออุโมงค์ต้นโมมิจิ แต่ตอนนี้มันไม่มีดอกและใบเท่านั้นเอง
จากจุดอุโมงค์ต้นโมมิจิ กลับหลังหันเดินข้ามถนนมาดูวิวภูเขาไฟฟูจิกัน
ณ ขณะนี้เวลาประมาณ 10 โมงเช้า เมฆเริ่มมาแล้ว
และนี่คือจุดที่สามารถถ่ายรูปฟูจิซังโดยมีดอกซากุระเป็นฉากหน้าได้ แต่ตอนที่เราไปนั้นซากุระยังไม่บาน ยังเป็นตุ่มๆอยู่เลย คงเพราะอากาศยังเย็นอยู่มาก ณ จุดที่ 18 นี้ ลมแรงมาก อากาศหนาวจนเราต้องเอาเสื้อกันหนาวมาใส่เพิ่มอีกตัว ดูจากอุณหภูมิท้องถิ่น ณ เวลานั้น 5 องศาอยู่เลย แล้วซากุระจะบานได้อย่างไร T T
และใกล้ๆ บริเวณจุดที่ 18 นี้ เราก็ไม่ลืมเก็บ RC ฝาท่อทะเลสาบคาวากุจิโกะไว้เป็นที่ระลึก ^__^
จากจุดที่ 18 พวกเรารอรถบัสอยู่นาน แล้วยังไม่มาเลยตัดสินใจเดินต่อไปที่จุดที่ 14 กะว่าเดินไปเรื่อยๆ เจอบัสเมื่อไรค่อยขึ้น และเราก็มาเจอบัสที่จุด 16 นั่งไปลงที่ จุด 14 จุดที่ 14 Kozantei Ubuya mae เป็นจุดชมวิวฟูจิได้เต็มลูก และมีอนุสาวรีย์ Matsuo Basho ด้วย
จากจุดที่ 14 พวกเราขี้เกียจเดินแล้ว จึงตัดสินใจรอรถบัสเพื่อไปยังจุดที่ 10 Yuransen Ropeway Iriguchi เพื่อขึ้นกระเช้าชมวิวฟูจิซัง และชมวิวทะเลสาบ โดยพวกเรานั่งรอรถบัสตากแดด อยู่แถวๆหน้าโรงแรมแถวจุด 14 นั้น รอมาครึ่งชม. พวกเรารู้สึกว่าตัดสินใจผิด แต่ก็อยากรอต่อไป กว่ารถบัสจะมาใช้เวลารอไปประมาณ 45 นาทีได้
และรถบัสก็พาเรามาถึงจุดที่ 10 ในเวลาไม่มาก ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆ เราตัดสินใจว่าหาอะไรกินกันก่อน ค่อยขึ้นกระเช้าชมวิวกัน โดยหาร้านใกล้ๆ บริเวณจุดที่ 10 นั้น
ร้านนี้ อ่านชื่อร้านไม่ออก แต่มีอาหารค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งข้าวหน้าต่างๆ โซบะ อุด้ง และหม้อไฟ
รสชาติอาหารก็โอเคนะ ราคาก็ปกติในเรทสถานที่ท่องเที่ยว ไม่แพงมากพอรับได้
กินเสร็จแล้ว เดินมาขึ้นกระเช้าชมวิวฟูจิซังที่ Mt. Kachi Kachi ค่าตั๋วแบบไปกลับคนละ 700 เยน
ขึ้นมาด้านบน ตอนนี้อากาศค่อนข้างแย่ลง ฝนใกล้จะตกเต็มที ฟูจิซังโดนเมฆบังไปหมดแล้ว
วิวจากข้างบนนี้หากวันไหนอากาศดีๆ เราจะสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เต็มลูกเช่นกัน แต่ตอนนี้มองวิวเมืองไปพลางก่อน ที่เห็นเป็นรางสีแดงๆทางซ้ายล่างนั้น คือสวนสนุก Fujikyu Highland (Highland Resort Hotel & Spa)
ไหนๆก็มองไม่เห็นวิวฟูจิซังแล้ว กลับหลังหันมาชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะ แบบครึ้มๆ กันบ้าง
จากตำนานที่จำได้คร่าวๆ เจ้ากระต่ายกำลังสั่งสอนเจ้าทานูกิตัวแสบ ที่ฆ่าภรรยาของชาวนาแล้วยังแปลงร่างเป็นภรรยาของชาวนา เพื่อปรุงเนื้อของภรรยาตัวจริงให้ชาวนากิน ใจคอโหดร้ายมาก ตายซะเถอะแก!!!
เราอยู่ที่ Yuransen Ropeway Riguchi จุดที่ 10 จนถึงเวลาประมาณบ่ายสองกว่าๆ ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวจุดต่อไปนั่นคือ เจดีย์แดง Chureito Pagoda
วิธีเดินทางมาเที่ยวเจดีย์แดง นั่งรถไฟจากสถานี Kawagujiko ลงที่สถานี Shimoyashida จากนั้นเข้าไปขอแผนที่การเดินทางไปเจดีย์แดงได้ที่เจ้าหน้าที่ภายในสถานี
เมื่อเดินออกมาหน้าสถานี Shimoyoshida แล้ว ให้เลี้ยวขวาเดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอแยก ให้เลี้ยวขวาอีกทีไปตามป้ายสีเหลืองในรูป แต่ที่เห็นจากในภาพนั้น พวกเรากำลังเลี้ยวผิดทาง ทางที่ถูกคือ เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟไปตามป้ายสีเหลืองในภาพนะจ๊ะ
เดินหลงมาผิดทางเลยได้เจอกับฝาท่อของ Shimoyoshida เป็นรูปรถดับเพลิง เลยถ่ายรูปเก็บ RC ฝาท่อไปตามระเบียบ
เมื่อเลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟมาตามป้ายสีเหลือง จะเจอกับทางเดินซึ่งสองข้างทางจะเป็นไร่ และบ้านเรือนของผู้คน แบบนี้ ให้เดินตามทางไปเรื่อยๆ
เดินมาตามทางเจอฝาท่อให้เก็บ RC อีกแล้ว อันนี้เป็นรูปที่ดับไฟ
เดินมาตามทางจะมีป้ายบอกทางเรื่อยๆ จากนั้นเมื่อถึงถนน ให้ข้ามถนนไปอีกฝั่ง
ข้ามถนนมาแล้วจะเจอบันไดทางขึ้นไปเจดีย์แดง Chureito Pagoda
เดินลอดเสาโทริอิไปเรื่อยๆ จะเจอกับศาลเจ้า
เมื่อเจอศาลเจ้าแล้ว เดินเลี้ยวขวามาจะถึงบันไดที่จะเดินขึ้นไปสู่ เจดีย์แดง Chureito Pagoda จากรูปหากมาทางรถก็สามารถขับรถขึ้นไปได้เช่นกัน จากประสบการณ์เดินขึ้นเขาตะเกียบที่เมืองไทย หากขึ้นบันไดชัน มีสูตรว่าให้เดินทะแยงมุม เฮ้อออ!! จะเดินทะแยงหรือเดินตรงก็เหนื่อยอยู่ดี 555
กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ กว่าจะเดินมาถึง พอถึงแล้วหิมะดันตกซะงั้น อากาศแย่มาก จากวิวตรงนี้ไม่เห็นฟูจิซังเลยสักนิดเดียว
หิมะเริ่มตก อยู่ชมเจดีย์แดงได้แป๊บเดียว ก็ต้องกลับซะแล้ว ยังไม่ได้ขึ้นไปจุดชมวิวด้านบนเลย T T
อากาศครึ้มมากแล้ว ฟ้าก็เริ่มสลัว ต้องกลับแล้วได้เวลาบอกลาเจดีย์แดง
เดินลงบันไดกลับมาทางเดิม
เดินข้ามทางรถไฟกลับมาที่สถานี Shimoyashida ฟ้าครึ้มมาเลย จากสถานี Shimoyoshida หากต้องการกลับโตเกียวจริงๆ แล้วนั่งรถไฟไปที่สถานี Otsuki แล้วต่อรถไฟเข้าโตเกียวได้เลย แต่เดอะแกงค์เราได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สถานี Shimoyoshida ว่าไม่มีรถไฟไป Otsuki ให้นั่งย้อนกลับไปที่สถานี Kawagujiko ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่เลย ต้องมีการสื่อสารอะไรที่ผิดพลาดแน่ๆ แต่ก็ถือซะว่า นั่งย้อนกลับไปซื้อของฝากละกันเนอะ 555
รถไฟสาย Fujikyu Railway ลวดลายน่ารัก สมกับเป็นรถไฟสายการท่องเที่ยวจริงๆ
กลับจากเที่ยวทะเลสาบคาวากุจิโกะ พวกเราตรงดิ่งมาเหมาซูชิที่ร้านนี้ไปปาร์ตี้กันต่อที่ห้อง จะกินให้หายเหนื่อยไปเล้ยยยย
ภายในร้านเป็นแบบยืนกินแบบนี้ แต่เราซื้อกลับไปตั้งวงปาร์ตี้ซูชิกันที่ห้อง
คืนนี้กินซูชิกันหนำใจสุดๆ พรุ่งนี้เรามีแพลนเที่ยวโตเกียว และไปเที่ยวโอไดบะด้วย สำหรับคืนนี้ราตรีสวัสดิ์จ้าาา
ดูบันทึกการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตามรอยซากุระย้อนหลัง ที่นี่
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (1) วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (2) เที่ยวโอซาก้า ปราสาทโอซาก้า Osaka Aquarium
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (3) เที่ยวโอซาก้า วัดชิเทนโนจิ หอคอยซึเทนคะคุ ออนเซน ที่ Spa World
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (4) เที่ยวฮิโรชิม่า เกาะมิยาจิม่า ศาลเจ้าลอยน้ำ เมืองเก่าคุราชิกิ
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (7) เที่ยวคามาคุระ-โยโกฮาม่า
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (9) ชมภูเขาไฟฟูจิ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ Kawagujiko Lake เจดีย์แดง Chureito Pagoda
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (11) โตเกียวดิสนีย์ซี Tokyo Disney Sea ศาลเจ้าเมอิจิ Meiji Jingu Shrine
เที่ยวญี่ปุ่น ซากุระ (13) วัดอาซากุสะ Sensoji Temple Asakusa ชมซากุระริมฝั่งแม่น้ำซูมิดะ Sumida Park
Travel by deeryarch